ICSC 0017 - 1,3-บิวทาไดอีน

« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น

1,3-บิวทาไดอีน	ICSC: 0017 (เมษายน 2017)
1,3-บิวทาไดอีน ไดไวนิล ไวนิลเอทิลีน ไบเอทิลีน อีรีทรีน ไพร์โรลลีลีน บิวทา-1,3-ไดอีน

เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 106-99-0

UN #: 1010 (เสถียร)

EC Number: 203-450-8

	อันตรายเฉียบพลัน	การป้องกัน	การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด	ไวไฟสูงสุด แก๊ส/อากาศผสม เป็นสารที่ทำให้ระเบิดได้	ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น) ถ้าอยู่ในสภาวะของเหลว	ถ้าไม่สามารถถ้าไม่สามารถดับไฟได้และพิจารณาแล้วว่าเผาไหม้นั้นไม่มีภาวะเสี่ยงใด ๆ ต่อสถานการณ์โดยรอบ ให้หยุดการส่งกำลังไประงับเหตุ และให้ปล่อยให้เพลิงไหม้จนดับไปเอง ส่วนในกรณีอื่น ๆ ให้ดับเพลิงด้วย ฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (สเปรย์น้ำ), ผง, คาร์บอนไดออกไซด์, โฟม ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้กับภาชนะเก็บสารเคมีนั้น

หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้!
	อาการแสดง	การป้องกัน	การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ	ไอ ปวดศีรษะ เซื่องซึม	ใช้ ระบบปิด และ ระบายอากาศ	อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์
ทางผิวหนัง	เมื่อสัมผัสกับของเหลว: แผลน้ำแข็งกัด	ถุงมือป้องกันความเย็น	ในกรณีเป้นแผลน้ำแข็งกัด: ให้ค่อยๆ ล้างด้วยน้ำ โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้าออก ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา
ทางตา	หากสัมผัสกับของเหลว : น้ำแข็งกัด	สวมใส่ กระบังหน้า	ในกรณีที่ไม่มีภาวะเยื่อตาเป็นแผลจากความเย็นจัด ให้ค่อย ๆ รินน้ำสะอาดล้างตา นำส่งแพทย์ทันที
ทางปาก		ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน

การกำจัดทิ้ง	การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : เครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ให้ปิดกระบอกสูบถ้าอยู่ในภาวะที่ทำได้ ให้กั้นแยกพื้นที่จนกว่าแก๊สจะกระจายตัวหายไป ไม่ฉีดน้ำโดยตรงไปยังของเหลว	ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) มีแก๊สภายใต้ความดันอาจระเบิดได้หากถูกทำให้ร้อน แก๊สไวไฟสูงมาก อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง อาจก่อให้เกิดพันธุกรรมบกพร่อง การขนส่ง UN Classification UN Hazard Class: 2.1
การเก็บ
เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร มีความคงทนต่อไฟ อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศดี แยกจาก incompatible materials และ food and feedstuffs (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) โปรดอ่านเพิ่มเติมในส่วนของอันตรายทางกายภาพ การเก็บรักษาในสภาวะที่เหมาะสมให้ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร ขนส่งเฉพาะกรณีที่เสถียรแล้ว

1,3-บิวทาไดอีน

ICSC: 0017

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี
สถานะทางกายภาพของสาร มีลักษณะทางกายภาพเป็น แก๊สไม่มีสี แก๊สภายใต้ความดัน แก๊สเหลว ที่มีกลิ่นเฉพาะ อันตรายทางกายภาพ แก๊สหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวบนพื้นซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างการเคลื่อนตัวดังกล่าวได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ ไอระเหยอาจเกิดโพลิเมอร์ซึ่งจะทำให้ระบายอากาศได้ยากมีการเก็บกักไอระเหยในช่องระบายอากาศ อันตรายทางเคมี สารนี้เมื่อสัมผัสอากาศจะกลายเป็นสารในรูปของเพอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดพอลิเมอร์ที่ระเบิดได้ สารนี้อาจจะเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชัน หากถูกทำให้อุ่นขึ้น สารนี้จะก่อให้เกิดนตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารสลายตัวอย่างรุนแรง เมื่อถูกทำให้ร้อนอย่างรวดเร็วภายใต้ความดัน สารนี้อย่างจริงจัง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์ และ สารอื่นอีกหลายชนิด สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติกจำนวนมาก และ บางรูปของยาง	C₄H₆ / CH₂=(CH)₂=CH₂สูตรโมเลกุล มวลโมเลกุล: 54.1 จุดเดือด : -4 องศาเซลเซียส จุดหลอมเหลว : -109°C ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.6 ละลายในน้ำ (ไม่ระบุอุณหภูมิ) : 0.1กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 245 กิโลปาสกาล (kPa) ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 1.9 จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -76°C c.c. อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 414°C ขีดจำกัดการระเบิด : 1.1-16.3vol% ในอากาศ ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.99

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็น แก๊สไม่มีสี แก๊สภายใต้ความดัน แก๊สเหลว ที่มีกลิ่นเฉพาะ

อันตรายทางกายภาพ
แก๊สหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวบนพื้นซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างการเคลื่อนตัวดังกล่าวได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ ไอระเหยอาจเกิดโพลิเมอร์ซึ่งจะทำให้ระบายอากาศได้ยากมีการเก็บกักไอระเหยในช่องระบายอากาศ

อันตรายทางเคมี
สารนี้เมื่อสัมผัสอากาศจะกลายเป็นสารในรูปของเพอร์ออกไซด์ ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นที่ก่อให้เกิดพอลิเมอร์ที่ระเบิดได้ สารนี้อาจจะเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชัน หากถูกทำให้อุ่นขึ้น สารนี้จะก่อให้เกิดนตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารสลายตัวอย่างรุนแรง เมื่อถูกทำให้ร้อนอย่างรวดเร็วภายใต้ความดัน สารนี้อย่างจริงจัง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์ และ สารอื่นอีกหลายชนิด สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติกจำนวนมาก และ บางรูปของยาง

C₄H₆ / CH₂=(CH)₂=CH₂สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 54.1
จุดเดือด : -4 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -109°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.6
ละลายในน้ำ (ไม่ระบุอุณหภูมิ) : 0.1กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 245 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 1.9
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -76°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 414°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.1-16.3vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.99

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น สารนี้ในระดับความเข้มข้นสูงมาก ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ ของเหลวนี้ระเหยได้เร็วอาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายจากควมเย็นจัด หากหายใจรับสารนี้ในระดับความเข้มข้นมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้กดระบบประสาทส่วนกลาง.	ความเสี่ยงต่อการหายใจ หากไม่มีการจัดเก็บหรือสูญเสียการจัดเก็บจะมีผลทำให้ความเข้มข้นแก๊สนี้ในอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็วมาก ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไขกระดูก สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ อาจก่อให้เกิดความผิดปกติทางการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในมนุษย์

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ในระดับความเข้มข้นสูงมาก ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ ของเหลวนี้ระเหยได้เร็วอาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายจากควมเย็นจัด หากหายใจรับสารนี้ในระดับความเข้มข้นมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้กดระบบประสาทส่วนกลาง.

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
หากไม่มีการจัดเก็บหรือสูญเสียการจัดเก็บจะมีผลทำให้ความเข้มข้นแก๊สนี้ในอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็วมาก

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไขกระดูก สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ อาจก่อให้เกิดความผิดปกติทางการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในมนุษย์

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 2 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A2 (suspected human carcinogen). EU-OEL: 2.2 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³) , 1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA). MAK: การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 1; กลุ่มที่ทำให้เซลล์สืบพันธุ์เกิดการกลายพันธุ์: 2

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)

TLV: 2 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A2 (suspected human carcinogen).
EU-OEL: 2.2 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³) , 1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA).
MAK: การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 1; กลุ่มที่ทำให้เซลล์สืบพันธุ์เกิดการกลายพันธุ์: 2

สิ่งแวดล้อม
ยังไม่มีการศึกษาสนับสนุนเียงพอว่าสารนนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อสังเกต
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์ หมุนกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอกด้านที่มีรอยรั่วขึ้นเพื่อป้องกันการรั่วไหลของแก๊สที่มีอยู่ในของเหลวในกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอก

ข้อสังเกต

การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
หมุนกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอกด้านที่มีรอยรั่วขึ้นเพื่อป้องกันการรั่วไหลของแก๊สที่มีอยู่ในของเหลวในกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอก

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

EC Classification
สัญลักษณ์ : F+, T; R: 45-46-12; S: 53-45; โปรดดูข้อสังเกต: D

(th)	ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล