« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
คลอโรฟอร์มICSC: 0027 (เมษายน 2024)
คลอโรฟอร์ม
ไตรคลอโรมีเทน
มีเทนไตรคลอไรด์
ฟอร์มิลไตรคลอไรด์
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 67-66-3
UN #: 1888
EC Number: 200-663-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป โปรดอ่านข้อสังเกต ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายของสารเคมี  ห้ามสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมี    ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด ในกรณีวัยรุ่นและเด็กให้หลีกเลี่ยงการได้รับสัมผัส  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ หายใจสั้น เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง เจ็บปวด ผิวแห้ง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  ไม่ทำให้อาเจียน บ้วนปาก ไม่ให้ดื่มน้ำหรือของเครื่องดื่มใดๆ ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันที่ครบสมบูรณ์พร้อมด้วยเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

excl mark;warncancer;health haz
อันตราย
หากกลืนสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกายจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและตา
อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ
เหตุอันควรสงสัยว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง
เหตุอันควรสงสัยของภาวะเจริญพันธุ์ถูกทำลายหรือเด็กที่ยังไม่เกิด
เป็นสาเหตุทำลาย ตับ, ไต และ ทางเดินหายใจ ตลอดการได้รับสัมผัสหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ
เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
เก็บรักษาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม แยกจาก food and feedstuffs และ incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ใส่หีบห่อที่แตกง่ายลงในภาชนะบรรจุที่มีคุณสมบัติทนทานไม่แตกหัก
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
คลอโรฟอร์ม ICSC: 0027
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ระเหย ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจสะสมในพื้นที่ว่างด้านล่างทำให้พื้นที่นั้นไม่มีออกซิเจน 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน สารนี้จะสร้างไอควัน (ฟูม) ที่มีพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน ของสารไฮโดรเจนคลอไรด์ (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0163), สารฟอสจีน (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0007) และสารคลอรีน (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0126) สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ เบสแก่ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารแอลคาไล สารอะซีโตน และ สารโลหะบางชนิด เช่น อะลูมิเนียม แมกนีเซียม และสังกะสี สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติก, ยาง และ การเคลือบ 

CHCl3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 119.4
จุดเดือด : 62 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -64°C
มีความหนาแน่น (ที่ 20°C ): 1.48 g/ml
ละลายในน้ำ (ละลายได้เล็กน้อย) ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.8กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 21.2 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 4.12
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.7
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.97  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา และ ผิวหนัง สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง กรณีนี้อาจมีผลทำให้ระบบประสาทส่วนกลางผิดปกติ และ ซึมเศร้า สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อตับ และ ไต at high concentrations กรณีนี้อาจมีผลทำให้ตับถูกทำลาย และ ทำลายไต ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ควรให้แพทย์ตรวจอาการ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ทางผ่านในจมูก สารนี้อาจมีผลต่อtissue lesions สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง, ตับ และ ไต สารนี้อาจมีผลต่อimpaired functions เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ จากการทดสอบกับสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้อาจก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือการพัฒนาการของมนุษย์ได้ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 10 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans).
EU-OEL: 10 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) , 2 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
เปลี่ยนการเผาไหม้ด้วยการเพิ่มสารไวไฟเพียงเล็กน้อยหรือเพิ่มปริมาณออกซิเจนในอากาศ
การแยกเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนโดยการปิดถุงหรือวัสดุอื่น
การดื่มแอลกอฮอล์มีผลทำให้มีอันตรายต่อสุขภาพมากขึ้น
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
The toxicity of this substance is driven by the metabolite phosgene (See ICSC 0007). 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล