« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ปรอทICSC: 0056 (พฤศจิกายน 2019)
ปรอท หรือ เมอร์คิวรี
ควิกซิลเวอร์
ลิควิดซิลเวอร์
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 7439-97-6
UN #: 2809
EC Number: 231-106-7

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  เสี่ยงต่อไฟไหม้และการระเบิด      ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ หายใจสั้น ไข้ อาเจียน ท้องร่วง ปวดท้อง ปวดศีรษะ อ่อนแอ  ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา   สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก   ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร  ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมี และ ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับสารปรอทในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นทำด้วยวัสดุที่ไม่ใช่โลหะหรือเท่าที่จะทำได้ ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

corrskull;toxiccancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
อาจกัดกร่อนโลหะ
อาจเสียชีวิตได้หากหายใจสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
อาจทำลายการสืบพันธุ์หรือเด็กไม่เกิด
เป็นสาเหตุทำลาย ระบบประสาทส่วนกลาง และ ไต
เป็นสาเหตุทำลาย ระบบประสาทส่วนกลาง และ ไต ตลอดการได้รับสัมผัสหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ
เป็นพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นระยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง แยกจาก food and feedstuffs มีการปิดผนึก เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
วัสดุพิเศษ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร
มลพิษทางทะเล 
ปรอท ICSC: 0056
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นโลหะหนักที่เป็นของเหลวสีเงินไหลได้กลิ้งได้ และไม่มีกลิ่น  

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะกลายเป็นไอควัน (fume) เมื่อได้รับความร้อน สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารแอมโมเนีย สารฮาโลเจน สารอะเซทิลีน และ สารเอมีน สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย อลูมิเนียม และ โลหะอื่นจำนวนมาก จะเกิดอะมัลกัม 

Hgสูตรโมเลกุล
200.6มวลอะตอม
จุดเดือด : 357 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -39°C
ความหนาแน่น: 13.5 g/cm³
ละลายในน้ำ: ไม่ระบุ
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.26 ปาสกาล (Pa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 6.93
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.009 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ ผ่านทางผิวหนังได้ดีท่ากับผ่านเข้าทางเดินหายใจในรูปของไอระเหย 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ผิวหนัง หากหายใจรับไอระเหยของสารนี้ในระดับความเข้มข้นมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้ปอดอักเสบ. กรณีนี้อาจมีผลทำให้เสียชีวิต สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง และ ไต กรณีนี้อาจมีผลทำให้มีอาการสั่น และ เนื้อเยื่อเป็นแผล ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง และ ไต สารนี้อาจมีผลต่อirritability emotional instability tremors mental and memory disturbances และ speech disorders อาจก่อให้เกิดเหงือกอักเสบและการเปลี่ยนสีของเหงือก เป็นไปได้ที่จะเกิดผลกระทบสะสม การทดสอบในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้มีพิษต่อร่างกายโดยมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.025 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); A4 (not classifiable as a human carcinogen); กำหนดค่า BEI.
EU-OEL: 0,02 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) กรณีเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA).
MAK: (inhalable fraction): 0.02 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(8); ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); ภูมิไวเกินของผิวหนัง (SH); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 3B; กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): D 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ปลา อาหารทะเลสารเคมีนี้สะสมได้ใน 

ข้อสังเกต
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
เป็นสารที่ไม่มีกลิ่นเตือนถึงระดับของความเข้มข้นที่เป็นพิษของสาร
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
การแยกเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนโดยการปิดถุงหรือวัสดุอื่น
สารปรอทที่บรรจุในผลิตภัณฑ์มีรหัสหรือเลข UN number 3506 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
H330; H372; H400; H410; H360D 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล