« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
สไตรีนICSC: 0073 (เมษายน 2006)
สไตรีน
ไวนิลเบนซีน
ฟีนิลเอทิลีน
อีเทนิลเบนซีน
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 100-42-5
UN #: 2055
EC Number: 202-851-5

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  มากกว่า 31 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ โปรดอ่านข้อสังเกต  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 31 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันการระเบิด  ใช้ ผงเคมี. ใช้ foam. ใช้ carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแอ หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด  เสื้อผ้าป้องกัน ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว พักผ่อน 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
อันตราย
ของเหลวไวไฟและไอระเหย
เป็นอันตรายต่อร่างกายหากหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและตา
โรคมะเร็งเหตุอันควรสงสัย
เป็นสาเหตุทำลาย ระบบประสาทส่วนกลาง และ ตับ ตลอดการได้รับสัมผัสหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาในที่มืด เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม
มลพิษทางทะเล 
สไตรีน ICSC: 0073
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสีถึงสีเหลือง ที่มีความมัน  

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด สารนี้อาจจะเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชัน หากถูกทำให้อุ่นขึ้นภายใต้สภาวะที่มีแสงสว่าง สารออกซิแดนท์ ออกซิเจน และสารเพอร์ออกไซด์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ กรดแก่ และ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย ยาง, ทองแดง และ ทองแดงอัลลอยด์ 

C8H8 / C6H5CHCH2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 104.2
จุดเดือด : 145 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -30.6°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.91
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.03กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.67 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.6
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.02
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 31°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 490°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 0.9-6.8vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.0  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การได้รับสัมผัสสารนี้ที่ระดับสูง สามารถทำให้หมดสติ. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างช้า  

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง ได้รับสัมผัสสารนี้อาจทำให้มีภาวะหูเสื่อมจากเสียงดังเพิ่มขึ้น เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 10 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 20 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (OTO); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans); กำหนดค่า BEI.
MAK: 86 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 20 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(2); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 5; กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด
หากไม่มีการยับยั้งการปล่อยไอระเหยของสารสไตรีนโมโนเมอร์อาจเกิดปฏิกิริยาสร้างพอลีเมอร์ในช่องระบายอากาศและในอุปกรณ์ป้องกันการลุกลามของไฟของถังเก็บสาร ซึ่งจะทำให้เกิดการอุดตันใน่ช่องระบายอากาศ
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : Xn; R: 10-20-36/38; S: (2)-23; โปรดดูข้อสังเกต: D 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล