« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
อะครีโลไนไตรล์ICSC: 0092 (มีนาคม 2001)
อะครีโลไนไตรล์
ไซยาโนเอทิลีน
2-โพรพีนไนไตรล์
ไวนิล ไซยาไนล์
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 107-13-1
UN #: 1093
EC Number: 203-466-5

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับเบสแก่ กรดแก่  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสกับด่างแก่ กรดแก่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ  ใช้ water spray, powder, alcohol-resistant foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หายใจสั้น อาเจียน อ่อนแอ อาการชัก กล้ามเนื้อหน้าอกหดตัว   ใช้ ระบบปิด การระบายอากาศ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ โปรดอ่านข้อสังเกต 
ทางผิวหนัง อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง เจ็บปวด แผล โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการหายใจ  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง อาเจียน โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำที่ผสมด้วยผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ทำให้อาเจียน (เฉพาะกรณีที่บุคคลนั้นยังมีสติรู้สึกตัว) ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) การระบายอากาศ (Ventilation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants, strong bases และ food and feedstuffs อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาในที่มืด มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ภาชนะบรรจุที่ทนทานไม่แตกหัก
ใส่หีบห่อที่แตกง่ายลงในภาชนะบรรจุที่มีคุณสมบัติทนทานไม่แตกหัก
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
อะครีโลไนไตรล์ ICSC: 0092
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี หรือ สีเหลืองอ่อน มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้เกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรไซชัน ขึ้นกับความร้อนและอยู่ภายใต้สภาวะที่มีแสงแดดและเบส สารนี้จะก่อให้เกิดนตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน สารนี้จะสร้างไอควันพิษ (ฟูมพิษ) รวมทั้ง สารไฮโดรเจนไซยาไนด์ และ สารไนโตรเจนออกไซด์ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ กรดแก่ และ สารออกซิแดนท์อย่างแรง ทำลาย พลาสติก และ ยาง 

C3H3N / CH2=CH-CNสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 53.1
จุดเดือด : 77 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -84°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.8
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 7กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 11.0 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 1.8
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.05
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -1°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 481°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 3.0-17.0vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.25  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้และไอระเหยของสารนี้ จะระคายเคืองต่อ ตา สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การได้รับสัมผัสสารนี้มากไปกว่าค่า OEL สามารถทำให้เสียชีวิต. ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ควรให้แพทย์ตรวจอาการ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง และ ตับ เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 2 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans).
MAK: การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 2; ภูมิไวเกินของผิวหนัง (SH); ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
การได้รับสัมผัสสารนี้จะมีผลทำให้เกิดการสร้างสารไซยาไนด์
โปรดอ่าน ICSC 0671
มีความจำเป็นต้องทำการรักษาเฉพาะในกรณีของพิษของสารนี้; มีการจัดเตรียมคำแนะนำที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
ค่อยๆรินน้ำเปล่าชะล้างเสื้อผ้าืั้ปนเปื้อนสารนี้เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ได้ 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : F, T, N; R: 45-11-23/24/25-37/38-41-43-51/53; S: 9-16-53-45-61; โปรดดูข้อสังเกต: D, E 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล