« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
คลอรีนICSC: 0126 (มีนาคม 2009)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 7782-50-5
UN #: 1017
EC Number: 231-959-5

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่ได้เป็นสารที่สันดาปได้แต่เป็นสารที่เพิ่มการสันดาปของสารอื่น การเกิดปฏิกิริยาอย่างมากอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดได้  เสี่ยงต่อไฟไหม้และการระเบิด โปรดอ่านอันตรายของสารเคมี    ห้ามการสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านในส่วนของ "อันตรายจากสารเคมี (Chemical Danger)"  ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้กับภาชนะเก็บสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ หายใจสั้น หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม  ใช้ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ ระบบปิด การระบายอากาศ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ส่งต่อแพทย์ทันที ควรผายปอด โปรดอ่านข้อสังเกต 
ทางผิวหนัง เมื่อสัมผัสกับของเหลว: แผลน้ำแข็งกัด ผื่นแดง รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เจ็บปวด ผิวหนังไหม้  ถุงมือป้องกันความเย็น เสื้อผ้าป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง ส่งต่อให้แพทย์ตรวจอาการทันที 
ทางตา ล้างตาด้วยน้ำ รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไฟไหม้  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) นำส่งแพทย์ทันที 
ทางปาก   ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน   

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้ชุดป้องกันสารเคมีแบบป้องกันแก๊ส (gas-tight chemical protection suit) พร้อมทั้งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) การระบายอากาศ (Ventilation) ให้ปิดกระบอกสูบถ้าอยู่ในภาวะที่ทำได้ ให้กั้นแยกพื้นที่จนกว่าแก๊สจะกระจายตัวหายไป ไม่ฉีดน้ำโดยตรงไปยังของเหลว ขจัดแก๊สด้วยการฉีดพ่นน้ำเป็นละอองฝอย (สเปรย์) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

cylinder;gasflam circlecorrskull;toxiccancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
อาจเป็นสาเหตุหรือเพิ่มความรุนแรงของเพลิงไหม้; ตัวออกซิไดซ์ (oxidizer)
มีแก๊สภายใต้ความดันอาจระเบิดได้หากถูกทำให้ร้อน
อาจเสียชีวิตได้หากหายใจสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
ก่อให้เกิดผิวหนังไหม้รุนแรงและทำลายตา
อาจเป็นสาเหตุ ระคายเคืองทางเดินหายใจ
อาจเป็นสาเหตุทำลายปอดตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ หายใจเข้าอาจเป็นสาเหตุทำลายปอดตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ [" ถ้า "P2
เป็นพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 2.3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 5.1 และ 8 

การเก็บ
เก็บรักษาในอาคารที่มีความคงทนต่อไฟ จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง แยกจาก food and feedstuffs (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บในที่แห้ง เก็บรักษาในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศดี เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
กรวยที่มีการบุเป็นพิเศษ
มลพิษทางทะเล 
คลอรีน ICSC: 0126
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นแก๊สสีเขียวเหลือง อัด เหลว มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
แก๊สหนักกว่าอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สารละลายในน้ำ เป็น กรดแก่ สารนี้มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับเบส และกัดกร่อน สารนี้เป็นสารออกซิแดนท์ที่แรง สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารที่ติดไฟได้ และ สารรีดิวซิ่งเอเจ้นท์หรือสารรีดิวซ์ สารนี้จะทำปฏิกิริยาเป็นอย่างมากกับสารประกอบอินทรีย์และสารประกอบอนินทรีย์แล้วทำให้เกิดการระเบิดและเพลิงไหม้ได้ ทำลาย โลหะ, บางรูปของพลาสติก, ยาง และ การเคลือบ 

Cl2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 70.9
จุดเดือด : -34 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -101°C
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.7กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 673 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.5  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
ร้ายแรง โดยการเข้าสู่ร่างกายจากการได้รับสัมผัสทุกช่องทาง 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
น้ำตาไหล สารนี้ จะกัดกร่อน ตา ของเหลวนี้ระเหยได้เร็วอาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายจากควมเย็นจัด การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ มีอาการคล้ายหอบหืด. หากหายใจรับเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้ปอดอักเสบ. การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ ปอดบวมน้ำ แต่มักเกิดขึ้นภายหลัง ในระยะแรกที่ได้รับสัมผัสสารนี้ จะมีผลกระทบโดยกัดกร่อนตาและ/หรือทางเดินหายใจ . (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เสียชีวิต. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ในกรณีที่ไม่มีภาชนะปิดที่ใช้บรรจุ ความเข้มข้นของสารนี้จะเข้าสู่ระดับที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็ว  

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบทางเดินหายใจ และ ปอด สารนี้อาจมีผลต่อchronic inflammation และ impaired functions สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ฟัน สารนี้อาจมีผลต่อerosion 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.4 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); A4 (not classifiable as a human carcinogen).
MAK: ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(1); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C.
EU-OEL: 1.5 ,มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 0.5 ส่วนในล้านส่วน (ppm) as STEL 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาการให้การบำบัดการหายใจโดยแพทย์หรือโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
ห้ามใช้ในบริเวณใกล้เคียงไฟหรือพื้นผิวที่ร้อน หรือระหว่างการเชื่อม
ห้ามพ่นน้ำเป็นละอองฝอย (spray water) ลงบนกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอกที่มีการรั่วซึ่ม (เพื่อป้องกันการระเบิดของกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอก)
หมุนกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอกด้านที่มีรอยรั่วขึ้นเพื่อป้องกันการรั่วไหลของแก๊สที่มีอยู่ในของเหลวในกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอก 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : T, N; R: 23-36/37/38-50; S: (1/2)-9-45-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล