« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไอโอดีนICSC: 0167 (เมษายน 2004)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 7553-56-2
UN #: 3495
EC Number: 231-442-4

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่ได้เป็นสารที่สันดาปได้แต่เป็นสารที่เพิ่มการสันดาปของสารอื่น การเกิดปฏิกิริยาอย่างมากอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดได้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้    ห้ามสัมผัสกับไวไฟ    ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม   

 ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม  ใช้ การระบายอากาศ (ไม่ใช้ในกรณีเป็นฝุ่นผง) การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง 
ทางตา ล้างตาด้วยน้ำ รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง ท้องร่วง คลื่นไส้ อาเจียน  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอนินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ห้ามดูดซับในขี้เลื่อยหรือสารดูดซับที่ติดไฟได้อื่นๆ ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิดและผนึกแน่น ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
แยกจาก incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) มีการปิดผนึก มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
ไอโอดีน ICSC: 0167
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นคริสตัลสีน้ำเงินอมดำ หรือ สีม่วงอมดำ และมีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
สารเปลี่ยนจากของแข็งไปเป็นแก๊สแล้ว 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน สารนี้จะสร้างไอควันพิษ (ฟูมพิษ) สารนี้เป็นสารออกซิแดนท์ที่แรง สารนี้มีปฏิกิริยากับเป็นวัสดุติดไฟและเป็นสารรีดิวซ์ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ ผงโลหะหรือโลหะผง สารแอนติโมนี สารแอมโมเนีย สารแอซีทัลดีไฮด์ และ สารอะเซทิลีน สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

I2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 253.8
จุดเดือด : 184 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : 114°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 4.9
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.03กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: 0.04 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 8.8
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 2.49  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
น้ำตาไหล สารนี้ ทำให้ระคายเคือง รุนแรง ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ผิวหนัง การได้รับสารนี้ทางการหายใจ ไอระเหยของสารนี้ อาจทำให้ มีอาการคล้ายหอบหืด. หากหายใจได้รับ ไอระเหย อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) ในกรณีที่หายาก หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดอาการคล้ายเป็นโรคหอบหืด (asthma-like syndrome (RADS)) สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไธรอยด์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.01 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); A4 (not classifiable as a human carcinogen).
MAK ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H) 

สิ่งแวดล้อม
fishสารนี้อาจเป็นอัตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ควรให้ความสนใจแสดงไว้ใน 

ข้อสังเกต
ทุกช่วงเวลาของการทำงานต้องไม่มีการได้รับสัมผัสสารนี้เกินค่าขีดจำกัดที่กำหนด
ค่อยๆรินน้ำเปล่าชะล้างเสื้อผ้าืั้ปนเปื้อนสารนี้เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ได้
อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาการให้การบำบัดการหายใจโดยแพทย์หรือโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์ 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : Xn, N; R: 20/21-50; S: (2)-23-25-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล