« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
โซเดียมโบรเมตICSC: 0196 (เมษายน 2006)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 7789-38-0
UN #: 1494
EC Number: 232-160-4

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่ได้เป็นสารที่สันดาปได้แต่เป็นสารที่เพิ่มการสันดาปของสารอื่น ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับสารไวไฟ ตัวรีดิวซ์  ห้ามสัมผัสกับสารติดไฟ สารรีดิวซ์    ใช้ water in large amounts.   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ โปรดอ่านในส่วนของการรับประทานเพิ่มเติม  ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน  ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุปกรณ์ป้องกันดวงตาในการป้องกันการหายใจเมื่อได้รับสัมผัสฝุ่นผง  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง ท้องร่วง เซื่องซึม หายใจลำบาก คลื่นไส้ อาเจียน หูตึง หูหนวก สลบ โปรดอ่านผลกระทบระยะยาวหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำที่ผสมด้วยผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามดูดซับในขี้เลื่อยหรือสารดูดซับที่ติดไฟได้อื่นๆ ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิดและผนึกแน่น ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam circlecancer;health haz
อันตราย
อาจเป็นสาเหตุให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิด; เป็นตัวออกซิไดซ์อย่างแรง (strong oxidizer)
เป็นสาเหตุทำลาย ไต และ ระบบประสาท ถ้า กลืน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 5.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
แยกจาก combustible substances และ reducing agents (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
โซเดียมโบรเมต ICSC: 0196
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกไม่มีสี  

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน สารนี้จะสร้างไอควัน (ฟูม) ที่มีพิษและกัดกร่อน รวมทั้งสร้าง สารไฮโดรเจนโบรไมด์ สารนี้เป็นสารออกซิแดนท์ที่แรง สารนี้มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับเป็นวัสดุติดไฟและเป็นสารรีดิวซ์ เชื้อเพลิง ผงโลหะ จาระบี และสารประกอบที่มีซัลเฟอร์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

NaBrO3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 150.9
ย่อยสลายหรือแตกตัว ที่ 381°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 3.34
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 36.4กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอนุภาคของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากรับประทาน จะสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อ ไต และ ระบบประสาท กรณีนี้อาจมีผลทำให้ไตวาย มีภาวะกดการหายใจ ภาวะหูเสื่อม และ เส้นประสาทส่วนปลายผิดปกติ หรือเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
เมื่อสารนี้กระจายตัวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในรูปฝุ่นผง ความเข้มข้นของอนุภาคของสารนี้ในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรวดเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
อาจทำให้ช็อกง่ายได้หากมีสารอินทรีย์ โลหะหนักและคาร์บอนผสมอยู่ด้วย
ค่อยๆรินน้ำเปล่าชะล้างเสื้อผ้าืั้ปนเปื้อนสารนี้เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ได้ 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล