ICSC 0235 - คลอโรอะซิติกแอซิด หรือ กรดคลอโรอะซิติก

« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น

คลอโรอะซิติกแอซิด หรือ กรดคลอโรอะซิติก	ICSC: 0235 (พฤศจิกายน 2016)

เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 79-11-8

UN #: 1751

EC Number: 201-178-4

	อันตรายเฉียบพลัน	การป้องกัน	การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด	การเผาไหม้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้	ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมี	ใช้ water spray, powder, alcohol-resistant foam, carbon dioxide. ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น

หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ การปฐมพยาบาล ให้ใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล โปรดดูข้อสังเกต
	อาการแสดง	การป้องกัน	การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ	เจ็บคอ ไอ หายใจสั้น รู้สึกเจ็บแปลบด้านหลังกระดูกหน้าอก หายใจลำบาก อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม โปรดอ่านในส่วนของการรับประทานเพิ่มเติม	ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ	อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ทันที
ทางผิวหนัง	อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง เจ็บปวด ผิวหนังไหม้ โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการรับประทาน	ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน	ให้สวมถุงมือเพื่อป้องกันมือขณะทำการปฐมพยาบาล ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ส่งต่อให้แพทย์ตรวจอาการทันที
ทางตา	รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไหม้รุนแรง	สวมใส่ หน้ากาก อุปกรณ์ป้องกันดวงตาในการป้องกันการหายใจเมื่อได้รับสัมผัสฝุ่นผง	ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) นำส่งแพทย์ทันที
ทางปาก	รู้สึกแสบร้อนในปากและลำคอ ปวดท้อง อาเจียน ท้องร่วง ชักกระตุก ช็อกหรือแฟบ สลบ	ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร	บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที โปรดอ่านข้อสังเกต

การกำจัดทิ้ง	การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation)	ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) อันตราย อาจกัดกร่อนโลหะ หากกลืนสารนี้หรือสัมผัสสารนี้ทางผิวหนังจะเกิดพิษต่อรางกายได้ ก่อให้เกิดผิวหนังไหม้รุนแรงและทำลายตา อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุทำลาย อวัยวะ เป็นพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ การขนส่ง UN Classification UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II
การเก็บ
แยกจาก incompatible materials และ food and feedstuffs (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) เก็บในที่แห้ง เก็บรักษาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม มีการปิดผนึก มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร

คลอโรอะซิติกแอซิด หรือ กรดคลอโรอะซิติก

ICSC: 0235

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี
สถานะทางกายภาพของสาร มีลักษณะทางกายภาพเป็นคริสตัลไม่มีสี ดูดความชื้น และมีกลิ่นฉุน อันตรายทางกายภาพ ไอระเหยหนักกว่าอากาศ อันตรายทางเคมี สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะสร้างไอควันพิษ (ฟูมพิษ) รวมทั้ง สารไฮโดรเจนคลอไรด์ และ สารฟอสจีน สารละลายในน้ำ เป็น กรดแก่ปานกลาง ทำลาย โลหะ จะเกิดแก๊สติดไฟหรือแก๊สระเบิด (ไฮโดรเจน - โปรดอ่านการ์ด ICSC 0001) สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ เบส สารออกซิไดซ์ และ สารรีดิวซิ่งเอเจ้นท์หรือสารรีดิวซ์ จะเกิดแก๊สไวไฟและมีพิษ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากความเป็นพิษ เพลิงไหม้ และการระเบิด ทำลาย บางรูปของพลาสติก, บางรูปของยาง และ การเคลือบ	C₂H₃ClO₂ / ClCH₂COOHสูตรโมเลกุล มวลโมเลกุล: 94.5 จุดเดือด : 189 องศาเซลเซียส จุดหลอมเหลว : โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม ความหนาแน่น (ที่ 20 °C): 1.58 g/cm³ ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: ได้ดีมาก ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: < 10 ปาสกาล (Pa) ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.3 จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 126°C c.c. อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 470°C ขีดจำกัดการระเบิด : 8 -?vol% ในอากาศ ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.34

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นคริสตัลไม่มีสี ดูดความชื้น และมีกลิ่นฉุน

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศ

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะสร้างไอควันพิษ (ฟูมพิษ) รวมทั้ง สารไฮโดรเจนคลอไรด์ และ สารฟอสจีน สารละลายในน้ำ เป็น กรดแก่ปานกลาง ทำลาย โลหะ จะเกิดแก๊สติดไฟหรือแก๊สระเบิด (ไฮโดรเจน - โปรดอ่านการ์ด ICSC 0001) สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ เบส สารออกซิไดซ์ และ สารรีดิวซิ่งเอเจ้นท์หรือสารรีดิวซ์ จะเกิดแก๊สไวไฟและมีพิษ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากความเป็นพิษ เพลิงไหม้ และการระเบิด ทำลาย บางรูปของพลาสติก, บางรูปของยาง และ การเคลือบ

C₂H₃ClO₂ / ClCH₂COOHสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 94.5
จุดเดือด : 189 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม
ความหนาแน่น (ที่ 20 °C): 1.58 g/cm³
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: ได้ดีมาก
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: < 10 ปาสกาล (Pa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.3
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 126°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 470°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 8 -?vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.34

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น สารนี้ จะกัดกร่อน ตา หากหายใจรับสารนี้ที่มีความเข้มข้นสูงมากอาจก่อให้เกิดปอดบวม แต่ในระยะแรกของฤทธิ์กัดกร่อนของสารนี้จะเห็นผลชัดเจนที่มีต่อตาและระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเท่านั้นผลของการกัดกร่อนของสารนี้ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเมตาบอลิสม กรณีนี้อาจมีผลทำให้ภาวะเลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญอาหาร และ อวัยวะหลายชนิดล้มเหลว การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เสียชีวิต. ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ	ความเสี่ยงต่อการหายใจ ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างช้า ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ หากหายใจรับสารนี้ในรูปของซ้ำ หรือเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อปอด

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ จะกัดกร่อน ตา หากหายใจรับสารนี้ที่มีความเข้มข้นสูงมากอาจก่อให้เกิดปอดบวม แต่ในระยะแรกของฤทธิ์กัดกร่อนของสารนี้จะเห็นผลชัดเจนที่มีต่อตาและระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเท่านั้นผลของการกัดกร่อนของสารนี้ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเมตาบอลิสม กรณีนี้อาจมีผลทำให้ภาวะเลือดเป็นกรดจากกระบวนการเผาผลาญอาหาร และ อวัยวะหลายชนิดล้มเหลว การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เสียชีวิต. ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างช้า

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากหายใจรับสารนี้ในรูปของซ้ำ หรือเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อปอด

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.5 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); A4 (not classifiable as a human carcinogen). MAK: 2.0 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 0.5 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(2); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)

TLV: 0.5 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); A4 (not classifiable as a human carcinogen).
MAK: 2.0 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 0.5 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(2); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ

ข้อสังเกต
หากสารสัมผัสผิวหนัง ให้รินน้ำสะอาดที่ผิวหนังส่วนนั้นโดยทันที นอกเหนือจากนี้ ในกรณีชำระล้างฉุกเฉิน ทำโดยการจุ่มผิวหนังหรือล้างผิวหนังในส่วนที่สัมผัสสารด้วย 3 - 5 % โซเดียมไบคาร์บอเนต เมื่อสารนี้สัมผัสกับผิวหนังมากกว่า 5% ของพื้นที่ผิวหนังจะเกิดผลกระทบรุนแรงเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินจากพิษสารเคมีชนิดนี้ มีความจำเป็นต้องทำการรักษาเฉพาะในกรณีของพิษของสารนี้; มีการจัดเตรียมคำแนะนำที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน ประสานสอบถามข้อมูลพิษของสารจากศูนย์ข้อมูลพิษหรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญ อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น ควรพิจารณาการให้การบำบัดการหายใจโดยแพทย์หรือโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ จุดหลอมเหลวอื่น ๆ: 63°C (สารในรูปแอลฟา (alpha form)), 56.2°C (สารในรูปบีตา (beta form)), 52.5°C (สารรูปแกมมา (gamma form)) รหัสหรือหมายเลข UN number อื่น ๆ ได้แก่ กรดคลอโรอะซิติก (สารละลาย) UN number 1750 กรดคลอโรอะซิติก (สารหลอมเหลว) UN number 3250

ข้อสังเกต

หากสารสัมผัสผิวหนัง ให้รินน้ำสะอาดที่ผิวหนังส่วนนั้นโดยทันที นอกเหนือจากนี้ ในกรณีชำระล้างฉุกเฉิน ทำโดยการจุ่มผิวหนังหรือล้างผิวหนังในส่วนที่สัมผัสสารด้วย 3 - 5 % โซเดียมไบคาร์บอเนต
เมื่อสารนี้สัมผัสกับผิวหนังมากกว่า 5% ของพื้นที่ผิวหนังจะเกิดผลกระทบรุนแรงเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินจากพิษสารเคมีชนิดนี้
มีความจำเป็นต้องทำการรักษาเฉพาะในกรณีของพิษของสารนี้; มีการจัดเตรียมคำแนะนำที่เหมาะสมพร้อมใช้งาน
ประสานสอบถามข้อมูลพิษของสารจากศูนย์ข้อมูลพิษหรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญ
อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาการให้การบำบัดการหายใจโดยแพทย์หรือโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ
จุดหลอมเหลวอื่น ๆ: 63°C (สารในรูปแอลฟา (alpha form)), 56.2°C (สารในรูปบีตา (beta form)), 52.5°C (สารรูปแกมมา (gamma form))
รหัสหรือหมายเลข UN number อื่น ๆ ได้แก่ กรดคลอโรอะซิติก (สารละลาย) UN number 1750 กรดคลอโรอะซิติก (สารหลอมเหลว) UN number 3250

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

EC Classification
สัญลักษณ์ : T, C, N; R: 23/24/25-34-50; S: (1/2)-26-36/37/39 -45-61-63

(th)	ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล