« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
เอทิลเบนซีนICSC: 0268 (พฤศจิกายน 2007)
เอทิลเบนซีน
เอทิลเบนซอล
ฟีนิลอีเทน
อีบี
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 100-41-4
UN #: 1175
EC Number: 202-849-4

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ ผงเคมี, foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก in the throat and chestมึนงง โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
อันตราย
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
เป็นอันตรายต่อร่างกายหากหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพหากกลืนกินสารนี้
สาเหตุ ระคายเคืองผิวหนังไม่รุนแรง
สาเหตุ ระคายเคืองตา
โรคมะเร็งเหตุอันควรสงสัย
อาจเป็นสาเหตุ ระคายเคืองทางเดินหายใจ
อาจเป็นสาเหตุ เซื่องซึม และ เวียนศีรษะ
อาจเป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้หรือได้รับสารนี้ทางการหายใจ
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
เอทิลเบนซีน ICSC: 0268
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี มีกลิ่น หอมอะโรมา  

อันตรายทางกายภาพ
ส่วนผสมระหว่างไอระเหยกับอากาศอาจอยู่ในรูปที่ระเบิดได้ง่าย 

อันตรายทางเคมี
สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง ทำลาย พลาสติก และ ยาง 

C8H10/C6H5C2H5สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 106.2
จุดเดือด : 136 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -95°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.9
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.015กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.9 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.7
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.02
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 18°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 432°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.0-6.7vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.1
ความหนืด : 0.6 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 25°C 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การได้รับสัมผัสสารนี้มากกว่าค่า OEL สามารถทำให้การรู้สึกตัวลดน้อยลง. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างช้า  

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไต และ ตับ สารนี้อาจมีผลต่อimpaired functions 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 20 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans); กำหนดค่า BEI.
MAK: 88 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 20 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(2); ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 4; กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C.
EU-OEL: 442 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) , 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); 884 ,มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 200 ส่วนในล้านส่วน (ppm) as STEL; (ผิวหนัง) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์ 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : F, Xn; R: 11-20; S: (2)-16-24/25-29 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล