« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
นอร์มัล-เฮกเซนICSC: 0279 (เมษายน 2024)
นอร์มัล-เฮกเซน
เฮกซิลไฮไดรด์
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 110-54-3
UN #: 1208
EC Number: 203-777-6

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ powder, foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

   
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ หายใจสั้น รู้สึกสบาย เคลิบเคลิ้ม ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เซื่องซึม หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง ผิวแห้ง  ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก อันตรายจากการสำลัก คอแห้ง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อสังเกต  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน พักผ่อน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
ของเหลวไวไฟและไอระเหย
ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง
อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ
เป็นสาเหตุทำลาย ระบบประสาท ตลอดการได้รับสัมผัสหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ
อาจทำลายการสืบพันธุ์หรือเด็กไม่เกิดถ้าหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
อาจทำให้เสียชีวิตได้หากกลืนกินสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นะยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
เก็บรักษาไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants มีการปิดผนึก มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
นอร์มัล-เฮกเซน ICSC: 0279
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ระเหย ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติกบางส่วน, ยาง และ การเคลือบ 

C6H14สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 86.2
จุดเดือด : 69 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -95°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.7
ละลายในน้ำ (เกือบไม่ละลาย) ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.0013กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 17 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.0
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.3
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -22°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 225°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.1-7.5vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.9
ความหนืด : 1.4 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ผิวหนัง สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ การได้รับสัมผัสสารนี้ในรูปของไอระเหยที่มีความเข้มข้นสูง สามารถทำให้หมดสติ. หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง และ ระบบประสาทส่นปลาย สารนี้อาจมีผลต่อpolyneuropathy การทดสอบในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้มีพิษต่อร่างกายโดยมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 50 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); กำหนดค่า BEI.
EU-OEL: 72 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) , 20 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
การรับประทาน หรือการดื่ม หรือเรียกว่าด้วยการกลืนกิน (ingestion) สารนี้เข้าไปแล้วสำลัก จะทำให้สารเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ ดังนั้นการรับประทานสารนี้จึงเสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคปอดอักเสบจากสารเคมี (chemical pneumonitis) จากการสำลักดังกล่าวได้
อาการของโรคปอดอักเสบจากสารเคมีนี้จะไม่ปรากฏชัดเจนจนกว่าเวลาจะผ่านไปสองสามชั่วโมงหรือสองสามวัน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล