« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไดโบรโมมีเทนICSC: 0354 (เมษายน 2013)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 74-95-3
UN #: 2664
EC Number: 200-824-2

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  ความร้อนมีผลทำให้ความดันสูงซึ่งเสี่ยงต่อการระเบิด เสี่ยงต่อไฟไหม้และการระเบิด โปรดอ่านอันตรายของสารเคมี    โปรดอ่านในส่วนของ "อันตรายจากสารเคมี (Chemical Danger)"  ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนแอ หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ควรให้ออกซิเจน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผิวแห้ง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

excl mark;warncancer;health haz
หากกลืนสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกายจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและตา
อาจเป็นสาเหตุทำลาย ระบบประสาทส่วนกลาง, เลือด และ ระบบหัวใจและหลอดเลือด
อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ
อาจเป็นสาเหตุทำลายระบบประสาทส่วนกลาง, ตับ, ไต และ ปอดตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ [" ถ้า "P2
อาจเป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้หรือได้รับสารนี้ทางการหายใจ
อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเลเป็นระยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
แยกจาก food and feedstuffs, strong oxidants, strong bases และ metals ไม่เก็บหรือขนส่งในภาชนะบรรจุที่ทำด้วย อลูมิเนียม พลาสติก. มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
ไดโบรโมมีเทน ICSC: 0354
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี  

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน สารนี้จะสร้างไอควัน (ฟูม) ที่มีพิษและกัดกร่อน รวมทั้งสร้าง สารไฮโดรเจนโบรไมด์ ถึงสารคาร์บอนมอนอกไซด์ (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0023) สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง เบสแก่ และ สารโลหะบางชนิด เช่น อะลูมิเนียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย บางรูปของพลาสติก, ยาง และ การเคลือบ 

CH2Br2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 173.8
จุดเดือด : 97 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -52.7°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 2.5
ละลายในน้ำ (ได้ปานกลาง) ที่อุณหภูมิ 15°C: 1.2กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 4.7 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 6.0
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.2
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.88 (โดยประมาณ)
ความหนืด : 0.39 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 25°C
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 515°C  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ, โดยการรับประทาน และ ผ่านทางผิวหนัง 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากกลืนสารนี้อาจทำให้อาเจียนและทำให้เกิดปอดอักเสบจากการสำลัก สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง, เลือด และ หัวใจ การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้เกิดพิษคาร์บอนมอนอกไซด์. กรณีนี้อาจมีผลทำให้ภาวะการทำงานบกพร่อง ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า การได้รับสัมผัสสารนี้ที่ความเข้มข้นสูง สามารถทำให้หมดสติและเสียชีวิต. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง, ตับ, ไต และ ปอด 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ห้ามใช้ในบริเวณใกล้เคียงไฟหรือพื้นผิวที่ร้อน หรือระหว่างการเชื่อม 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : Xn; R: 20-52/53; S: (2)-24-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล