ICSC 0355 - ไดเอทิลอีเทอร์

« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น

ไดเอทิลอีเทอร์	ICSC: 0355 (เมษายน 2024)

เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 60-29-7

UN #: 1155

EC Number: 200-467-2

	อันตรายเฉียบพลัน	การป้องกัน	การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด	ไวไฟสูงสุด ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับสารออกซิแดนซ์ สารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายของสารเคมี	ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสกับพื้นผิวร้อน ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น) ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ ห้ามการสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านในส่วนของ "อันตรายจากสารเคมี (Chemical Danger)"	ใช้ alcohol-resistant foam, powder, carbon dioxide. ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น


	อาการแสดง	การป้องกัน	การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ	ไอ เจ็บคอ เซื่องซึม เวียนศีรษะ รู้สึกสบาย เคลิบเคลิ้ม อาเจียน ปวดศีรษะ หายใจลำบาก หมดสติ	ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ	อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ทันที
ทางผิวหนัง	ผื่นแดง ผิวแห้ง	ถุงมือป้องกัน	ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง
ทางตา	รอยแดง	สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย	ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์
ทางปาก	คลื่นไส้ อาเจียน โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม	ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน	ไม่ทำให้อาเจียน บ้วนปาก ไม่ให้ดื่มน้ำหรือของเครื่องดื่มใดๆ ส่งต่อไปพบแพทย์

การกำจัดทิ้ง	การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation)	ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) อันตราย ของเหลวไวไฟและไอระเหยไวไฟรุนแรง เป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้ อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ การขนส่ง UN Classification UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I
การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก oxidants และ other incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาในที่มืด เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม

ไดเอทิลอีเทอร์

ICSC: 0355

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี
สถานะทางกายภาพของสาร มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ระเหยง่ายมาก ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ อันตรายทางกายภาพ ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ อันตรายทางเคมี สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด ภายใต้อิทธิพลของแสงสว่างและอากาศ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารฮาโลเจน สารอินเตอร์ฮาโลเจน สารประกอบซัลเฟอร์ และ สารออกซิแดนท์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติก และ ยาง	C₄H₁₀O / (C₂H₅)₂Oสูตรโมเลกุล มวลโมเลกุล: 74.1 จุดเดือด : 35 องศาเซลเซียส จุดหลอมเหลว : -116°C ความหนาแน่น (ที่ 20 °C): 0.7 g/cm³ ละลายในน้ำ (ละลาย) ที่อุณหภูมิ 20°C: 6.9กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 58.6 กิโลปาสกาล (kPa) ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.6 ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.9 จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -45°C c.c. อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 160-180°C ขีดจำกัดการระเบิด : 1.7-48vol% ในอากาศ ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.89 (โดยประมาณ)

กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ระเหยง่ายมาก ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด ภายใต้อิทธิพลของแสงสว่างและอากาศ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารฮาโลเจน สารอินเตอร์ฮาโลเจน สารประกอบซัลเฟอร์ และ สารออกซิแดนท์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย พลาสติก และ ยาง

C₄H₁₀O / (C₂H₅)₂Oสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 74.1
จุดเดือด : 35 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -116°C
ความหนาแน่น (ที่ 20 °C): 0.7 g/cm³
ละลายในน้ำ (ละลาย) ที่อุณหภูมิ 20°C: 6.9กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 58.6 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.6
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.9
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -45°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 160-180°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.7-48vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.89 (โดยประมาณ)

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง กรณีนี้อาจมีผลทำให้อาการเมา หรือง่วงนอน หรือหมดความรู้สึก	ความเสี่ยงต่อการหายใจ ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง อาจทำให้เกิดการลุกลาม

การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง กรณีนี้อาจมีผลทำให้อาการเมา หรือง่วงนอน หรือหมดความรู้สึก

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบประสาทส่วนกลาง อาจทำให้เกิดการลุกลาม

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 400 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 500 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL). EU-OEL: 308 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³) , 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); 616 ,มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 200 ส่วนในล้านส่วน (ppm) as STEL

ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)

TLV: 400 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 500 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL).
EU-OEL: 308 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³) , 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); 616 ,มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m³), 200 ส่วนในล้านส่วน (ppm) as STEL

สิ่งแวดล้อม
ได้มีการสำรวจผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของสารอย่างเพียงพอ แต่ไม่พบผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อสังเกต
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เพิ่มอันตราย ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ข้อสังเกต

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้เพิ่มอันตราย
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด
การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม

EC Classification

(th)	ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล