« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
คลอรามีน - ทีICSC: 0413 (ตุลาคม 2005)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 127-65-1
UN #: 1759
EC Number: 204-854-7

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด การเผาไหม้    ห้ามใกล้เปลวไฟ    ใช้ water spray, powder.   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ หายใจมีเสียงหวีด  ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุปกรณ์ป้องกันดวงตาในการป้องกันการหายใจเมื่อได้รับสัมผัสฝุ่นผง  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
แยกจาก acids และ food and feedstuffs 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
คลอรามีน - ที ICSC: 0413
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของแข็งสีขาว มีหลายรูปทรง และมีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารนี้อาจระเบิดได้หากได้รับความร้อนสูงกว่า130°C(ในภาวะปราศจากน้ำ (anhydrous (แอนไฮดรัส)) สารนี้จะสลายตัวอย่างช้า ๆภายใต้สภาวะที่มี อากาศ จะเกิดคลอรีน (ไตรไฮเดรต) สารนี้จะสลายตัว เมื่อถูกทำให้ร้อนและสัมผัสกับกับ กรด สารนี้จะสร้างแก๊สพิษ 

C7H7ClNNaO2Sสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 227.6
ย่อยสลายหรือแตกตัว
ความหนาแน่น (ไตรไฮเดรต): 1.4 g/cm³
ละลายในน้ำ (ดี ไตรโฮเดรต) ที่อุณหภูมิ 25°C: กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 192°C c.c. (ไตรไฮเดรต (trihydrate))
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.84 (โดยประมาณ) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอนุภาคของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง รุนแรง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
เมื่อสารนี้กระจายตัวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยู่ในรูปฝุ่นผง ความเข้มข้นของอนุภาคของสารนี้ในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรวดเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดหอบหืด 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
อาการปอดบวมนั้น มักพบบ่อยว่ายังมีอาการไม่ชัดเจน จนกว่าจะผ่านระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมง และมีการออกกำลังกาย ก็จะพบว่ามีปอดบวมชัดเจน
การพักผ่อนและการมีแพทย์สังเกตอาการเป็นสิ่งจำเป็น
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
ข้อแนะนำในการ์ด (card) นี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสารคลอรามีน-ที ไตรไฮเดรต (Chloramine-T trihydrate) ซึ่งมีรหัสหรือหมายเลขประจำตัวสารเคมีเป็น CAS number 7080-50-4 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : C; R: 22-31-34-42; S: (1/2)-7-22-26-36/37/39 -45 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล