« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
2-เมท็อกซีเอทธิลอะซิเตตICSC: 0476 (พฤศจิกายน 2003)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 110-49-6
UN #: 1189
EC Number: 203-772-9

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟ  มากกว่า 45 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 45 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันการระเบิด  ใช้ water spray, powder, alcohol-resistant foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้!  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง อาจถูกดูดซึม ผิวแห้ง โปรดอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการหายใจ  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแอ สลบ โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม การระบายอากาศ (Ventilation) เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants, strong bases และ strong acids เก็บรักษาในที่มืด 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
2-เมท็อกซีเอทธิลอะซิเตต ICSC: 0476
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถอยู่ใรูปของเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ระเบิดได้ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง และ เบสแก่ 

C5H10O3 / CH3COOCH2CH2OCH3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 118.1
จุดเดือด : 145 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -65°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 1.01
ละลายในน้ำ: ผสมกันได้
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.27 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 4.1
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.01
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 45°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 380°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.5 (ที่ 93°C) - 12.3 (ที่ 93°C)vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.121  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
ไอระเหย ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อไขกระดูก และ ระบบประสาทส่วนกลาง สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเลือด at high levels กรณีนี้อาจมีผลทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรอยแผล และ ไตเสื่อสภาพ การได้รับสัมผัสสารนี้มากไปกว่าค่า OEL สามารถทำให้หมดสติ. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไขกระดูก และ เลือด สารนี้อาจมีผลต่อlesions of blood cells และ kidney impairment อาจก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือพัฒนาการของมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ผิวหนัง); กำหนดค่า BEI.
MAK: 4.9 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 1 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(8); ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): B.
EU-OEL: 1 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) กรณี TWA; (ผิวหนัง) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด
ยังไม่มีการสอบสวนที่เพียงพอสำหรับกรณีผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสสาร
ผลกระทบจากสารนี้อาจอนุมานได้จากสารที่คล้ายคลึงกัน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : T; R: 60-61-20/21/22; S: 53-45; โปรดดูข้อสังเกต: E 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล