« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
เตตราไฮโดรฟิวแรนICSC: 0578 (พฤศจิกายน 2019)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 109-99-9
UN #: 2056
EC Number: 203-726-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ alcohol-resistant foam, water spray, powder, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ รู้สึกแสบร้อนในลำคอและทรวงอก เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง ผิวแห้ง ผื่นแดง เจ็บปวด  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย กระบังหน้า  ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) นำส่งแพทย์ 
ทางปาก โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด การระบายอากาศ (Ventilation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึกแน่นไม่ให้อากาศเข้า ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
เป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้
ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง
ก่อให้เกิดการระคายเคืองตารุนแรง
อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ
เหตุอันควรสงสัยว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง
อาจเป็นสาเหตุทำลายไต และ ตับตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ [" ถ้า "P2 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ มีการปิดผนึก แยกจาก โปรดอ่านเพิ่มเติมในส่วนของอันตรายจากสารเคมี 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม 
เตตราไฮโดรฟิวแรน ICSC: 0578
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง เบสแก่ และ สารโลหะเฮไลด์บางชนิด สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ ทำลาย บางรูปของพลาสติก, ยาง และ การเคลือบ 

C4H8O / (CH2)3CH2Oสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 72.1
จุดเดือด : 66 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -108.5°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.89
ละลายในน้ำ: ละลายได้อย่างอิสระ
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 19.3 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.5
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.28
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -14.5°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 321°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 2-11.8vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 0.46 (โดยประมาณ)
ความหนืด : 0.5 มิลลิปาสกาลวินาที (MilliPascal-second (mPa*s)) ที่อุณหภูมิ 20°C 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย, โดยการรับประทาน และ ผ่านทางผิวหนัง 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้และไอระเหยของสารนี้ จะระคายเคืองต่อ ตา สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง at high levels กรณีนี้อาจมีผลทำให้อาการเมา หรือง่วงนอน หรือหมดความรู้สึก  

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ตับ และ ไต สารนี้อาจมีผลต่อimpaired functions เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 50 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (ผิวหนัง); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans).
MAK: 150 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 50 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(2); ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 4; กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C.
EU-OEL: 150 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) , 50 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); 300 ,มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 100 ส่วนในล้านส่วน (ppm) as STEL; (ผิวหนัง) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล