« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
คาร์โบนิลฟลูออไรด์ICSC: 0633 (พฤศจิกายน 2003)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 353-50-4
UN #: 2417
EC Number: 206-534-2

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้        ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้กับภาชนะเก็บสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง การดับไฟจากที่กําบัง 

 ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เจ็บคอ ไอ หายใจลำบาก หายใจสั้น อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด เมื่อสัมผัสกับของเหลว: แผลน้ำแข็งกัด  ถุงมือป้องกันความเย็น เสื้อผ้าป้องกัน  ในกรณีเป้นแผลน้ำแข็งกัด: ให้ค่อยๆ ล้างด้วยน้ำ โดยไม่ต้องถอดเสื้อผ้าออก ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด หากสัมผัสกับของเหลว : น้ำแข็งกัด  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก      

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การระบายอากาศ (Ventilation) ไม่ฉีดน้ำโดยตรงไปยังของเหลว การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้ชุดป้องกันสารเคมีแบบป้องกันแก๊ส (gas-tight chemical protection suit) พร้อมทั้งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 2.3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 8 

การเก็บ
เก็บรักษาในอาคารที่มีความคงทนต่อไฟ อยู่ในที่เย็น 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
คาร์โบนิลฟลูออไรด์ ICSC: 0633
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นแก๊สไม่มีสี ดูดซับความชื้น อัด เหลว มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
แก๊สหนักกว่าอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สลายตัว ที่อุณหภูมิ 450-490 องศาเซลเซียส (°C) สารนี้จะสร้างแก๊สพิษ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ น้ำ และ อากาศชื้น 

COF2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 66.0
จุดเดือด : -83 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -114°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 1.39 (-190°C)
ความหนาแน่น (แก๊ส): 2.89 g/l
ละลายในน้ำ: ปฏิกิริยา
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.3  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาก๊าซของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากหายใจได้รับ สารความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ ของเหลวนี้ระเหยได้เร็วอาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายจากควมเย็นจัด ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า ควรให้แพทย์ตรวจอาการ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
หากไม่มีการจัดเก็บหรือสูญเสียการจัดเก็บจะมีผลทำให้ความเข้มข้นแก๊สนี้ในอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 2 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 5 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
สารประกอบของสารนี้จะสลายตัวในร่างกายไปเป็นสารไฮโดรเจนฟลูออไรด์ (โปรดอ่านข้อมูลในการ์ด ICSC 0283 ไฮโดรเจนซัลไฟด์)
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
อาการปอดบวมนั้น มักพบบ่อยว่ายังมีอาการไม่ชัดเจน จนกว่าจะผ่านระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมง และมีการออกกำลังกาย ก็จะพบว่ามีปอดบวมชัดเจน
การพักผ่อนและการมีแพทย์สังเกตอาการเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาการให้การบำบัดการหายใจโดยแพทย์หรือโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ
ให้หมุนกระบอกสูบหรือถังเก็บทรงกระบอกด้านที่รั่วไหลขึ้นเพื่อป้องกันการรั่วของแก๊สในสถานะของเหลว 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล