คลอโรอะซีโตน | ICSC: 0760 (ตุลาคม 2006) |
คลอโรอะซีโตน 1-คลอโร-2-โพรพาโนน อะซีโตนิลคลอไรด์ โมโนคลอโรอะซีโตน |
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 78-95-5 |
UN #: 1695 (เสถียร) |
EC Number: 201-161-1 |
อันตรายเฉียบพลัน | การป้องกัน | การระงับอัคคีภัย | |
---|---|---|---|
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด | ไวไฟ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้ มากกว่า 35 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ | ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 35 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันการระเบิด | ใช้ water spray, powder, alcohol-resistant foam, carbon dioxide. ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น |
ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด | |||
---|---|---|---|
อาการแสดง | การป้องกัน | การปฐมพยาบาล | |
ทางการหายใจ | เจ็บคอ ไอ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน หายใจสั้น | ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ | อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ส่งต่อแพทย์ |
ทางผิวหนัง | อาจถูกดูดซึม ผื่นแดง เจ็บปวด แผล โปรดอ่านข้อสังเกต | ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน | ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา |
ทางตา | รอยแดง ล้างตาด้วยน้ำ ความเจ็บปวด แผลไฟไหม้ | สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน | ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) นำส่งแพทย์ทันที |
ทางปาก | in the throat and chestมึนงง | ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน | บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์ |
การกำจัดทิ้ง | การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์ |
---|---|
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะที่มีการปิดมิดชิด ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) |
ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) ![]() ![]() ![]() อันตราย
ของเหลวไวไฟและไอระเหยเป็นพิษถ้ากลืนกิน หากสารนี้สัมผัสผิวหนังหรือเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจอาจทำให้เสียชีวิตได้ สาเหตุ ระคายเคืองผิวหนัง สาเหตุ ทำลายตารุนแรง อาจเป็นสาเหตุ ระคายเคืองทางเดินหายใจ การขนส่ง |
การเก็บ | |
เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants และ food and feedstuffs เก็บรักษาในที่มืด | |
การบรรจุ/การหีบห่อ | |
ภาชนะบรรจุที่ทนทานไม่แตกหัก ใส่หีบห่อที่แตกง่ายลงในภาชนะบรรจุที่มีคุณสมบัติทนทานไม่แตกหัก ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร |
คลอโรอะซีโตน | ICSC: 0760 |
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี | |
---|---|
สถานะทางกายภาพของสาร
อันตรายทางกายภาพ
อันตรายทางเคมี
|
C3H5ClO / ClCH2COCH3สูตรโมเลกุล |
การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ | |
---|---|
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
|
ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
|
ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน) |
---|
TLV: 1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (ผิวหนัง) |
สิ่งแวดล้อม |
---|
ข้อสังเกต |
---|
ภายหลังการได้รับสัมผัสสารนี้ อาการผิดปกติโดยมีตุ่มพองเกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นช้า โดยใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะปรากฏตุ่มพองให้เห็น ไม่มีข้อมูลขีดจำกัดการระเบิด เพียงแต่ระบุว่าเป็นสารติดไฟและมีจุดวาบไฟ < 61°C ทุกช่วงเวลาของการทำงานต้องไม่มีการได้รับสัมผัสสารนี้เกินค่าขีดจำกัดที่กำหนด การได้กลิ่นจะเป็นการเตือนหากภาวะเกินค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสไม่เพียงพอต่อการระวังเหตุการณ์ การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ |
ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม | ||
---|---|---|
EC Classification |
(th) | ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล |