« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไซโคลเพนทาไดอีนICSC: 0857 (เมษายน 2024)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 542-92-7
UN #: 1993

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟ  มากกว่า 25 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายของสารเคมี  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 25 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันการระเบิด ห้ามการสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้  ใช้ powder, foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไปพบแพทย์หากรู้สึกไม่สบาย 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : เครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameskull;toxic
อันตราย
ของเหลวไวไฟและไอระเหย
หากกลืนสารนี้หรือสัมผัสสารนี้ทางผิวหนังจะเกิดพิษต่อรางกายได้
ก่อให้เกิดการระคายเคืองตารุนแรง
อาจเป็นสาเหตุ ระคายเคืองทางเดินหายใจ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) ถูกทำให้เย็น แยกจาก incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม
ภาชนะบรรจุที่ทนทานไม่แตกหัก 
ไซโคลเพนทาไดอีน ICSC: 0857
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะกลายไปเป็นสารเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารระเบิด หากสัมผัสอากาศ สารนี้เกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรไซชันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลดลง (to dimer) สารนี้จะก่อให้เกิดนตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สามารถเร่งปฏิกิริยาได้ด้วยสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) หรือกรดไตรคลอโรอะซิติก (trichloroacetic acid) สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง และ กรดแก่ เช่น กรดไนตริกเข้มข้น และกรดซัลฟูริกเข้มข้น ทำลาย พลาสติกจำนวนมาก และ บางรูปของยาง 

C5H6สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 66.1
จุดเดือด : 41.5-42.0 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -85°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.8
ละลายในน้ำ: ไม่ละลาย
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 45.1 กิโลปาสกาล (kPa)(โดยประมาณ)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.3
ขุดวาบไฟ : -20°C
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 640°C  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ผิวหนัง 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0,5 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
ยังไม่มีข้อมูลการกำหนดขีดจำกัดการระเบิดแม้ว่าสารนี้จะเป็นสารติดไฟและมีจุดวาบไฟน้อยกว่า 55 องศาเซลเซียส (°C)
การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
The substance is normally stored in the more stable dimer form. The monomer can be stored at -80°C for only few days. 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล