« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
เอทิลคลอโรฟอร์เมตICSC: 1025 (เมษายน 2000)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 541-41-3
UN #: 1182
EC Number: 208-778-5

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสกับสารออกซิไดซ์อย่างแรง  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ alcohol-resistant foam, powder, carbon dioxide. ไม่ใช้ น้ำ  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของภาชนะบรรจุสารเคมีด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้กับภาชนะเก็บสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน ไอ หายใจลำบาก หายใจสั้น เจ็บคอ อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม  ใช้ ระบบปิด การระบายอากาศ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ โปรดอ่านข้อสังเกต 
ทางผิวหนัง ผิวหนังไหม้ แผล เจ็บปวด ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไหม้รุนแรง  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง มึนงง ช็อกหรือแฟบ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้ชุดป้องกันสารเคมีแบบป้องกันแก๊ส (gas-tight chemical protection suit) พร้อมทั้งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) การระบายอากาศ (Ventilation) เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายแห้งหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 3 และ 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants, food and feedstuffs และ incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บในที่แห้ง มีการปิดผนึก 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม
ภาชนะบรรจุที่ทนทานไม่แตกหัก
ใส่หีบห่อที่แตกง่ายลงในภาชนะบรรจุที่มีคุณสมบัติทนทานไม่แตกหัก
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
เอทิลคลอโรฟอร์เมต ICSC: 1025
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน จะเกิดไอควัน (ฟูม) มีฤทธิ์ระคายเคืองและมีพิษ ซึ่งรวมสารไฮโดรเจนคลอไรด์และฟอสจีนด้วย สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ น้ำ และ ไอน้ำ จะเกิดสารไฮโดรเจนคลอไรด์กัดกร่อนและมีพิษ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารเอมีน และ เบส มีปฏิกริยาโดยเร็วกับ โลหะหลายชนิด , | และ ] ในที่ที่มี ความชื้น. 

C3H5ClO2 / ClCOOC2H5สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 108.53
จุดเดือด : 95 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -80.6°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 1.1
ละลายในน้ำ: ปฏิกิริยา
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 5.5 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.7
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.15
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 16°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 500°C
ขีดจำกัดการระเบิด: 3.2-27.5 vol% ในอากาศ (การสลายตัวด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ >250°C) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
น้ำตาไหล สารนี้ จะกัดกร่อน ตา หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร หากหายใจได้รับ ไอระเหย อาจทำให้เกิดภาวะปอดบวมน้ำ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
MAK: การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 3B 

สิ่งแวดล้อม
ยังไม่มีการศึกษาสนับสนุนเียงพอว่าสารนนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ยังไม่มีการสอบสวนที่เพียงพอสำหรับกรณีผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสสาร
อาการปอดบวมนั้น มักพบบ่อยว่ายังมีอาการไม่ชัดเจน จนกว่าจะผ่านระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมง และมีการออกกำลังกาย ก็จะพบว่ามีปอดบวมชัดเจน
การพักผ่อนและการมีแพทย์สังเกตอาการเป็นสิ่งจำเป็น
ควรพิจารณาด้วยว่าควรให้แพทย์หรือเจ้าหน้าที่พ่นสเปรย์ที่เหมาะสมให้อย่างทันทีทันใดเพื่อช่วยการหายใจ 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : F, T+; R: 11-22-26-34; S: (1/2)-9-16-26-28-33-36/37/39 -45 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล