« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไปเปอร์ราซีน (แอนไอดรัส)ICSC: 1032 (กรกฎาคม 2003)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 110-85-0
UN #: 2579
EC Number: 203-808-3

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด การเผาไหม้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  มากกว่า 65 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ  ห้ามใกล้เปลวไฟ  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 65 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ  ใช้ water spray, powder, alcohol-resistant foam, carbon dioxide.   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน ไอ เจ็บคอ หายใจสั้น หายใจลำบาก หายใจมีเสียงหวีด  หลีกเลี่ยงการหายใจของ ฝุ่นละออง. ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผิวหนังไหม้ เจ็บปวด แผล  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าชำระล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง อย่างน้อย 15 นาที ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไหม้รุนแรง  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก มึนงง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนแอ ชักกระตุก ช็อกหรือแฟบ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม การระบายอากาศ (Ventilation) ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
แยกจาก strong acids, strong oxidants, acid anhydrides, metals และ food and feedstuffs เก็บในที่แห้ง มีการปิดผนึก 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
ไปเปอร์ราซีน (แอนไอดรัส) ICSC: 1032
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกดูดซับความชื้น ไม่มีสี หรือเป็นเกล็ดสีขาว สารนี้มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
ไม่มีข้อมูล 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะผลิตแก๊สพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อน รวมทั้ง สารไนโตรเจนออกไซด์ สารละลายในน้ำ เป็น ด่างแก่ปานกลาง สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ กรดแอนไฮไดรด์ กรดแก่ และ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากเพลิงไหม้ ทำลาย โลหะจำนวนมาก จะเกิดแก๊สไวไฟ/แก๊สระเบิด (ไฮโดรเจน - (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0001) 

C4H10N2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 86.14
จุดเดือด : 146 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : 106°C
ความหนาแน่น: 1.1 g/cm³
ละลายในน้ำ ที่อุณหภูมิ 20°C: 15กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 21 ปาสกาล (Pa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1
ขุดวาบไฟ : 65°C
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 320°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 4-14vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): -1.17  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ จะกัดกร่อน ตา หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ ปอดบวมน้ำ แต่มักเกิดขึ้นภายหลัง ในระยะแรกที่ได้รับสัมผัสสารนี้ จะมีผลกระทบโดยกัดกร่อนตาและ/หรือทางเดินหายใจ . (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) หากรับประทาน จะสามารถทำให้เกิดผลกระทบต่อ ระบบประสาท กรณีนี้อาจมีผลทำให้ภาวะการทำงานบกพร่อง และ หมดสติ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ไม่มีข้อบ่งชี้อัตราความเข้มข้นที่เป็นอันตรายของสารนี้ในอากาศ เมื่อมีการระเหยที่อุณหภูมิ 20°C  

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดหอบหืด 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.03 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (สารกระตุ้นให้ภูมิไวเกิน (SEN)); A4 (not classifiable as a human carcinogen).
MAK: ภูมิไวเกินของทางเดินหายใจและผิวหนัง (SAH).
EU-OEL: 0.1 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) กรณีเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); 0.3 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) กรณีขีดจำกัดระยะสั้น (STEL) 

สิ่งแวดล้อม
fishสารนี้อาจเป็นอัตรายต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ควรให้ความสนใจแสดงไว้ใน 

ข้อสังเกต
อาการปอดบวมนั้น มักพบบ่อยว่ายังมีอาการไม่ชัดเจน จนกว่าจะผ่านระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมง และมีการออกกำลังกาย ก็จะพบว่ามีปอดบวมชัดเจน
การพักผ่อนและการมีแพทย์สังเกตอาการเป็นสิ่งจำเป็น
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
อาการปอดบวมนั้น มักพบบ่อยว่ายังมีอาการไม่ชัดเจน จนกว่าจะผ่านระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมง และมีการออกกำลังกาย ก็จะพบว่ามีปอดบวมชัดเจน
การพักผ่อนและการมีแพทย์สังเกตอาการเป็นสิ่งจำเป็น
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : C; R: 34-42/43-52/53; S: (1/2)-22-26-36/37/39 -45-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล