โคบอลต์ซัลเฟต | ICSC: 1127 (เมษายน 2013) |
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 10124-43-3 |
EC Number: 233-334-2 |
อันตรายเฉียบพลัน | การป้องกัน | การระงับอัคคีภัย | |
---|---|---|---|
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด | ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้ | ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม |
ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! | |||
---|---|---|---|
อาการแสดง | การป้องกัน | การปฐมพยาบาล | |
ทางการหายใจ | ไอ เจ็บคอ หายใจสั้น | ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ | อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ |
ทางผิวหนัง | ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน | ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้น ให้พาไปพบแพทย์ | |
ทางตา | รอยแดง ความเจ็บปวด | สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุปกรณ์ป้องกันดวงตาในการป้องกันการหายใจเมื่อได้รับสัมผัสฝุ่นผง | ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ |
ทางปาก | คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง | ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร | บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์ |
การกำจัดทิ้ง | การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์ |
---|---|
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) |
ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria) ![]() ![]() ![]() อันตราย
เป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองตา อาจ่กอให้เกิดการแพ้ หรือมีอาการหอบหืด หรือหายใจลำบาก อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง สงสัยว่าอาจก่อให้เกิดความบกพร่องทางพันธุกรรม อาจเป็นสาเหตุ โรคมะเร็ง ถ้า หายใจเข้า อาจทำลายการสืบพันธุ์หรือเด็กไม่เกิด อาจเป็นสาเหตุทำลายไธรอยด์, ไขกระดูก และ หัวใจตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ กลืนกินอาจเป็นสาเหตุทำลายไธรอยด์, ไขกระดูก และ หัวใจตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ [" ถ้า "P2 อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นะยะเวลานาน การขนส่ง |
การเก็บ | |
แยกจาก strong oxidants เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง | |
การบรรจุ/การหีบห่อ | |
โคบอลต์ซัลเฟต | ICSC: 1127 |
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี | |
---|---|
สถานะทางกายภาพของสาร
อันตรายทางกายภาพ
อันตรายทางเคมี
|
CoSO4สูตรโมเลกุล |
การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ | |
---|---|
ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
|
ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
|
ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน) |
---|
TLV: (as Co, inhalable fraction): 0.02 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); (ลดภูมิไวเกิน); (เพิ่มภูมิไวเกิน); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans); กำหนดค่า BEI. MAK: (กรณีโคบอลต์, inhalable fraction): ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); ภูมิไวเกินของทางเดินหายใจและผิวหนัง (SAH); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 2; กลุ่มที่ทำให้เซลล์สืบพันธุ์เกิดการกลายพันธุ์: 3A |
สิ่งแวดล้อม |
---|
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม |
ข้อสังเกต |
---|
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์ ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้ ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน |
ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม | ||
---|---|---|
EC Classification สัญลักษณ์ : T, N; R: 49-60-22-42/43-68-50/53; S: 53-45-60-61; โปรดดูข้อสังเกต: E, 1 |
(th) | ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล |