« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
โคบอลต์ (II) อะซีเตตเตตระไฮเดรตICSC: 1128 (เมษายน 2013)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 6147-53-1
EC Number: 200-755-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้        ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้!  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ หายใจสั้น เจ็บคอ  ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ถ้ายังรู้สึกไม่ดีขึ้น ให้พาไปพบแพทย์ 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

excl mark;warncancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
เป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้
อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและตา
อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ
อาจ่กอให้เกิดการแพ้ หรือมีอาการหอบหืด หรือหายใจลำบาก
อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง
อาจเป็นสาเหตุ โรคมะเร็ง ถ้า หายใจเข้า
สงสัยว่าอาจก่อให้เกิดความบกพร่องทางพันธุกรรม
อาจทำลายการสืบพันธุ์หรือเด็กไม่เกิด
อาจเป็นสาเหตุทำลาย ปอด ถ้า หายใจเข้า
อาจเป็นสาเหตุทำลายไธรอยด์, ไขกระดูก และ หัวใจตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ กลืนกินอาจเป็นสาเหตุทำลายไธรอยด์, ไขกระดูก และ หัวใจตลอดการได้รับสัมผัสสารหรือได้รับสัมผัสสารซ้ำ [" ถ้า "P2
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นะยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
 

การเก็บ
แยกจาก strong oxidants เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
โคบอลต์ (II) อะซีเตตเตตระไฮเดรต ICSC: 1128
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกสีแดง  

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน จะเกิดไอควัน (ฟูม) มีฤทธิ์ระคายเคือง สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

C4H6CoO4.4H2Oสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 249.1
จุดหลอมเหลว : 140°C
ความหนาแน่น: 1.7 g/cm³
ละลายในน้ำ (ได้ดีมาก) ที่อุณหภูมิ 25°C: กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ความเข้มข้นของอนุภาคในอากาศจะถึงระดับคววามเข้มข้นที่เป็นอันตรายเมื่อเปิดให้กระจายตัวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นฝุ่นผง 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดหอบหืด หากหายใจรับสารนี้ในรูปของซ้ำ หรือเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อปอด การรับประทานอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อ หัวใจ, ไธรอยด์ และ ไขกระดูก. เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ จากการทดสอบกับสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้อาจก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือการพัฒนาการของมนุษย์ได้ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
อาหารทะเลสารเคมีนี้สะสมได้ใน 

ข้อสังเกต
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
ขึ้นอยู่กับระดับของการได้รับสัมผัส และการแนะนำการตรวจสุขภาพตามระยะที่กำหนด
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
จุดหลอมเหลวขึ้นกับการสูญเสียน้ำสะอาด
ข้อแนะนำในการ์ด (card) นี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโคบอลต์ (II) อะซิเตตแอนไฮดรัส  

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล