« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ฟีนิล ไอโซไซยาเนตICSC: 1131 (พฤษภาคม 2002)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 103-71-9
UN #: 2487
EC Number: 203-137-6

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  มากกว่า 51 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ  ห้ามสัมผัสกับพื้นผิวร้อน ห้ามสัมผัสกับสารออกซิไดซ์  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 51 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ และอุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันการระเบิด  ใช้ ผงเคมี, carbon dioxide, alcohol-resistant foam. ไม่ใช้ น้ำ  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง 

 หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน หายใจลำบาก หายใจสั้น อาการอาจปรากฏช้า โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง แผล เจ็บปวด ผิวหนังไหม้  เสื้อผ้าป้องกัน ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา ล้างตาด้วยน้ำ รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไหม้รุนแรง  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย กระบังหน้า  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก มึนงง ปวดท้อง ช็อกหรือแฟบ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) การระบายอากาศ (Ventilation) เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุความเสี่ยงลำดับรอง (UN Subsidiary Risks) : 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ เก็บรักษาในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศดี เก็บในที่แห้ง 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
ฟีนิล ไอโซไซยาเนต ICSC: 1131
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสีถึงสีเหลือง มีกลิ่นฉุน 

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน จะเกิดสารไฮโดรเจนไซยาไนด์และ สารไนโตรเจนออกไซด์ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ น้ำ สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง กรดแก่ เบสแก่ แอลกอฮอล์ และ สารเอมีน 

C7H5NOสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 119.13
จุดเดือด : 158-168 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -30°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 1.095
ละลายในน้ำ: ปฏิกิริยา
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 0.2 กิโลปาสกาล (kPa)
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 51°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 300°C  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
น้ำตาไหล สารนี้ จะกัดกร่อน ตา  

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
เมื่อสารนี้กระจายตัวออกไป ความเข้มข้นของอนุภาคของสารนี้ในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรวดเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดหอบหืด 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.005 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.015 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณ๊ขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); (ผิวหนัง); (สารกระตุ้นให้ภูมิไวเกิน (SEN)).
MAK ภูมิไวเกินของทางเดินหายใจและผิวหนัง (SAH) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล