« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไอโซเพนเทนICSC: 1153 (เมษายน 2014)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 78-78-4
UN #: 1265
EC Number: 201-142-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูงสุด ความร้อนจะเพิ่มความดันที่เสี่ยงต่อการระเบิด  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น) ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ  ใช้ powder, carbon dioxide, alcohol-resistant foam, water spray.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

   
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผิวแห้ง  ถุงมือป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง 
ทางตา ไม่พบอาการเฉียบพลัน  สวมใส่ แว่นตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ค่อย ๆ รินน้ำสะอาดล้างตา (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออกก่อน ถ้าสามารถเอาคอนแทคเลนส์ออกได้)  
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน อันตรายจากการสำลัก  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยที่มีจุดเดือดต่ำในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
อันตราย
ของเหลวไวไฟและไอระเหยไวไฟรุนแรง
อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ
อาจทำให้เสียชีวิตได้หากกลืนกินสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ มีการปิดผนึก แยกจาก strong oxidants เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
ไอโซเพนเทน ICSC: 1153
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจสะสมในพื้นที่ว่างด้านล่างทำให้พื้นที่นั้นไม่มีออกซิเจน 

อันตรายทางเคมี
สารนี้อาจจะระเบิดได้เมื่อมีความร้อน สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สารนี้จะก่อให้เกิดนตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

C5H12 / (CH3)2-CH-CH2-CH3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 72.2
จุดเดือด : 28 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -160°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.6
ละลายในน้ำ: ไม่ระบุ
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 79 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.5
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 2.2
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ <-51°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 420°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.4-7.6vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 2.3
ความหนืด : 0.3 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 20°C 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
หากกลืนกินสารนี้ แล้วสำลัก สารนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจและมีผลทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ หากหายใจรับไอระเหยของสารนี้ในระดับความเข้มข้นมากเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้กดระบบประสาทส่วนกลาง. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศค่อนข้างเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 1000 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA).
MAK: 3000 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 1000 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(2); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C.
EU-OEL: 3000 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) , 1000 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA) 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
สารนี้หากมีความเข้มข้นสูงในอากาศจะก่อให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการหมดสติหรือเสียชีวิต
ตวจสอบปริมาณของออกซิเจนก่อนเข้าไปยังบริเวณดังกล่าว 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล