« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
4-ไวนิลไซโคลเฮกเซนICSC: 1177 (พฤศจิกายน 2019)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 100-40-3
UN #: 1993
EC Number: 202-848-9

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ ห้ามสัมผัสกับสารออกซิไดซ์  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ foam, powder, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ ปวดศีรษะ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง 
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก อันตรายจากการสำลัก  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายแห้งหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง
เหตุอันควรสงสัยว่าเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคมะเร็ง
อาจทำให้เสียชีวิตได้หากกลืนกินสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นะยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก oxidants อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร มีการปิดผนึก 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม 
4-ไวนิลไซโคลเฮกเซน ICSC: 1177
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี  

อันตรายทางกายภาพ
ส่วนผสมระหว่างไอระเหยกับอากาศอาจอยู่ในรูปที่ระเบิดได้ง่าย 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด สารนี้ จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

C6H9CH=CH2 / C8H12สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 108.2
จุดเดือด : 128 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -109°C
ความหนาแน่น: 0.83 g/cm³
ละลายในน้ำ (เกือบไม่ละลาย) ที่อุณหภูมิ 25°C: 50 มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/l)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: 2.1 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.7
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.09
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 16°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 269°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 0.8-9.1vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.93
ความหนืด : 0.84 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 20°C 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ผิวหนัง สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา หากกลืนกินสารนี้ แล้วสำลัก สารนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจและมีผลทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การทดสอบในสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้มีพิษต่อร่างกายโดยมีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ เป็นไปได้ที่สารนี้อาจก่อมะเร็งในมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.1 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A3 (confirmed animal carcinogen with unknown relevance to humans).
MAK: ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 2 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ fishการสะสมทางชีวภาพของสารเคมีนี้อาจเกิดขึ้นตามห่วงโซ่อาหารเช่นใน 

ข้อสังเกต
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
H351 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล