« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ซัลเฟอร์ไตรออกไซด์ICSC: 1202 (ธันวาคม 2022)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 7446-11-9
UN #: 1829
EC Number: 231-197-3

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่สันดาป ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้ การเกิดปฏิกิริยาอย่างมากอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิดได้ ความร้อนจะเพิ่มความดันที่เสี่ยงต่อการระเบิด โปรดอ่านข้อสังเกต  เสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้และระเบิดเมื่อสัมผัสกับเบส สารไวไฟ ตัวรีดิวซ์ น้ำ สารอินทรีย์  ห้ามสัมผัสกับสารที่เข้ากันไม่ได้ โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมี    ไม่ใช้ น้ำ ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น ไม่ใช้น้ำดับไฟโดยตรง 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เจ็บคอ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน หายใจสั้น หายใจลำบาก  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด แผล ผิวหนังไหม้รุนแรง  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน ผ้ากันเปื้อน  ให้สวมถุงมือเพื่อป้องกันมือขณะทำการปฐมพยาบาล ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง ส่งต่อ ทันที ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด แผลไหม้รุนแรง  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) นำส่งแพทย์ทันที 
ทางปาก รู้สึกแสบร้อนในปากและลำคอ behind the breastboneมึนงง ปวดท้อง อาเจียน ช็อกหรือแฟบ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ให้ดื่มน้ำหรือของเครื่องดื่มใดๆ ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะที่มีการปิดมิดชิด ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายแห้งหรือสารดูดซับเฉื่อย ห้ามดูดซับในขี้เลื่อยหรือสารดูดซับที่ติดไฟได้อื่นๆ ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

corr
ก่อให้เกิดผิวหนังไหม้รุนแรงและทำลายตา
อาจระคายเคืองทางเดินหายใจ
อาจกัดกร่อนโลหะ
โปรดอ่านข้อสังเกต 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 8; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
การเก็บรักษาในสภาวะที่เหมาะสมให้ทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต เก็บในที่แห้ง มีการปิดผนึก เก็บรักษาในบรรจุภัณฑ์เดิม แยกจาก food and feedstuffs และ incompatible materials (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม
ภาชนะบรรจุที่ทนทานไม่แตกหัก
ใส่หีบห่อที่แตกง่ายลงในภาชนะบรรจุที่มีคุณสมบัติทนทานไม่แตกหัก
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
ซัลเฟอร์ไตรออกไซด์ ICSC: 1202
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวดูดซับความชื้น หรือของแข็ง หลายรูปทรง (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้เป็นสารออกซิแดนท์ที่แรง สารนี้มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับเป็นวัสดุติดไฟและเป็นสารรีดิวซ์ และสารประกอบอินทรีย์ สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ น้ำ และ อากาศชื้น จะเกิดกรดซัลฟลูริก สารนี้จะก่อให้เกิดความร้อน และ นตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ สารละลายในน้ำ เป็น กรดแก่ สารนี้มีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับเบส และกัดกร่อน โลหะ จะเกิดแก๊สไวไฟ/แก๊สระเบิด (ไฮโดรเจน - (โปรดอ่านการ์ด ICSC 0001) โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม 

SO3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 80.1
จุดเดือด : 44.8 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : 17°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 1.9
ละลายในน้ำ: มีปฏิกิริยารุนแรง
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: 57.7 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.8
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.2-2
(โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
ร้ายแรงผลกระทบเฉพาะที่ โดยการเข้าสู่ร่างกายจากการได้รับสัมผัสทุกช่องทาง สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ จะกัดกร่อน ตา ผิวหนัง ทางเดินหายใจ หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถมีอาการขาดอากาศหายใจเนื่องจากหลอดคอโป่งพอง. หากหายใจรับสารนี้ที่มีความเข้มข้นสูงมากอาจก่อให้เกิดปอดบวม แต่ในระยะแรกของฤทธิ์กัดกร่อนของสารนี้จะเห็นผลชัดเจนที่มีต่อตาและระบบทางเดินหายใจส่วนต้นเท่านั้นผลของการกัดกร่อนของสารนี้ การได้รับสารนี้ทางการหายใจ อาจทำให้ มีอาการคล้ายหอบหืด. ควรให้แพทย์ตรวจอาการ (โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม) 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก  

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากหายใจรับสารนี้ในรูปของละอองลอยซ้ำ หรือเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อปอด ความเสี่ยงต่อการมีฟันสึกกร่อนขึ้นอยู่กับการได้รับสัมผัสสารนี้ในรูปของละอองลอยซ้ำ ๆ หรือเป็นระยะเวลานาน ละอองของกรดอนินทรีย์เข้มข้นเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
สารนี้อาจมีสถานะเป็นของเหลวหรือของแข็งได้โดยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ สารในรูปของแอลฟา- และบีตา-จะมีรูปร่างเป็นแอสเบสตอสที่มีรูปร่างเป็นเข็มคล้ายแร่ใยหิน (asbestos-like needles) ส่วนสารซัลเฟอร์ไตรออกไซด์ที่หลอมละลายจะอยู่ในรูปของแกมมา และเมื่อถูกทำให้เย็นลงจะควบแน่นกลายรูปเป็นของแข็ง และมีรูปคล้ายน้ำแข็ง (ice-like gamma-sulfur trioxide) การเก็บสารเป็นระยะเวลานานจะเกิดการเปลี่ยนแปลงสารไปเป็นแอลฟา-ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และบีตา-ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างช้า ๆ
เมื่อสารนี้ในรูปของแอลฟาหลอมละลายจะได้เป็นสารในรูปของแกมมา และความดันไอจะเพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้เสี่ยงอันตรายจากการระเบิด
จุดเดือดสำหรับสารในรูปของแกมมา
จุดหลอมเหลวอื่น ๆ: 62°C (สารในรูปแอลฟา (alpha form)), 33°C (สารในรูปบีตา (beta form)), 17°C (สารรูปแกมมา (gamma form))
ณ อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส (°C) สารในรูปของแอลฟา (alpha) บีตา (beta) และแกมมา (gamma) จะมีความดันไอที่ 9.7 กิโลปาสกาล (kPa) 45.9 กิโลปาสกาล (kPa) และ 57.7 กิโลปาสกาล (kPa) ตามลำดับ
ไม่เทน้ำลงบนสาร เมื่อต้องการละลายสารหรือเจือจางสารให้ค่อย ๆ เติมน้ำอย่างช้า ๆ
อาการปอดบวมจะยังไม่แสดงชัดเจนกว่าเวลาผ่านไปสองชั่วโมงภายหลังการได้รับการบาดเจ็บ ดังนั้นการให้พักผ่อนและมีการสังเกตอาการทางการแพทย์จึงเป็นสิ่งจำเป็น
องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ได้พิจารณาแล้วว่า ละอองของกรดอนินทรีย์เข้มข้น (mists of strong inorganic acid) เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ (group 1) อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลความเป็นพิษก่อมะเร็งของสารนี้ที่มีลักษณะทางกายภาพอื่น ๆ ดังนั้น จึงไม่มีการจำแนกความเป็นพิษก่อมะเร็งสำหรับสารนี้ภายใต้เกณฑ์ของ GHS  

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล