« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไวนิลเอทิลอีเทอร์ICSC: 1261 (พฤษภาคม 2018)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 109-92-2
UN #: 1302 (เสถียร)
EC Number: 203-718-4

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่ โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมี  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น) ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ  ใช้ foam, ผงเคมี, carbon dioxide, water.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ ไม่ประสานกัน เวียนศีรษะ เซื่องซึม ปวดศีรษะ หายใจมีเสียงหวีด หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง ผิวแห้ง  ถุงมือป้องกัน  ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ 
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก อันตรายจากการสำลัก ปวดศีรษะ คลื่นไส้  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด การระบายอากาศ (Ventilation) การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่มีการปิดผนึกแน่นหรือเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ให้ล้างสารที่ยังตกค้างด้วยน้ำเปล่า ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
อันตราย
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
อาจเป็นสาเหตุ เซื่องซึม และ เวียนศีรษะ
อาจเป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้หรือได้รับสารนี้ทางการหายใจ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): I 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก strong oxidants และ acids (โปรดอ่านอันตรายจากสารเคมีเพิ่มเติม) อยู่ในที่เย็น เก็บรักษาภายใต้ แก๊สเฉื่อย เก็บรักษาเมื่ออยู่ในภาวะเสถียร 
การบรรจุ/การหีบห่อ
อัดลม 
ไวนิลเอทิลอีเทอร์ ICSC: 1261
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ ไอระเหยอาจเกิดโพลิเมอร์ในช่องระบายอากาศและท่อปล่อยไฟ ซึ่งจะทำให้เก็บกักไอระเหย 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด สารนี้ในรูปของของเหลวหรือในรูปของไอระเหยจะสามารถเกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรเซชันได้อย่างง่ายดาย สารนี้เกิดปฏิกิริยาพอลีเมอไรไซชันได้อย่างรุนแรง ขึ้นกับความร้อนและอยู่ภายใต้สภาวะที่มีวัสดุมาก โปรดอ่านข้อสังเกตเพิ่มเติม สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์ และ กรด สารนี้จะก่อให้เกิดอันตรายจากการระเบิดและเพลิงไหม้ 

CH2=CHOCH2CH3 / C4H8Oสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 72.1
จุดเดือด : 36 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -115°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.8
ละลายในน้ำ (ละลายได้เล็กน้อย) ที่อุณหภูมิ 15°C: 8.3 กรัมต่อลิตร (g/l)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 56 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.5
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.82
ขุดวาบไฟ : <-45°C
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 202°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.7-28vol% ในอากาศ
ความหนืด : 0.3 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s)
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.04  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง เล็กน้อย ต่อ ตา และ ทางเดินหายใจ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง กรณีนี้อาจมีผลทำให้หมดสติ และ อาการเมา หรือง่วงนอน หรือหมดความรู้สึก หากกลืนสารนี้อาจทำให้อาเจียนและทำให้เกิดปอดอักเสบจากการสำลัก 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
สารนี้มีผลต่อผิวหนัง โดยทำให้ผิวหนังแห้งหรือแตก หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ตับ และ ไต สารนี้อาจมีผลต่อorgan disturbances 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
การใส่สารกระตุ้นหรือใส่สารยับยั้งจะมีผลต่อสมบัติความเป็นพิษของสาร จึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล