« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไตรไกลซิดิลไอโซไซยานูเรตICSC: 1274 (สิงหาคม 1997)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 2451-62-9
EC Number: 219-514-3

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด การเผาไหม้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  อนุภาคเล็กมากหรือละเอียดที่ถูกปล่อยออกมาจะมาผสมกับอากาศและทำให้ระเบิดได้  ห้ามใกล้เปลวไฟ  ทำให้เป็นระบบปิด ให้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันระเบิด ป้องกันการทับถมของฝุ่นละออง  ใช้ foam, powder, carbon dioxide.   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้!  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ   ใช้ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน 
ทางผิวหนัง   ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นครอบตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก   ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ทำให้อาเจียน (เฉพาะกรณีที่บุคคลนั้นยังมีสติรู้สึกตัว) ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิดและผนึกแน่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
 

การเก็บ
มีการปิดผนึก 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
ไตรไกลซิดิลไอโซไซยานูเรต ICSC: 1274
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผงหรือเม็ดสีขาว 

อันตรายทางกายภาพ
ฝุ่นละอองอาจระเบิดได้ถ้าอยู่ในรูปของผงหรือเป็นเม็ดเล็กๆในอากาศ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้อาจถูกเปลี่ยนเป็นสารพอลิเมอร์หากสารนี้ได้รับอุณหภูมิสูงกว่า 120 องศาเซลเซียส (°C) ในเวลามากกว่า 12 ชั่วโมง หรือหากสารนี้ได้รับสารคะตะลิสต์ (catalysts) สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะสร้างไอควันพิษ (ฟูมพิษ) รวมทั้ง สารไนโตรเจนออกไซด์ ในรูปของสารที่หลอมละลายจะทำปฏิกิริยากับเอมีนชนิดปฐมภูมิและเอมีนชนิดทุติยภูมิ, กรดคาร์บอกซิลิกและแอนไฮไดรด์, ไทออล, ฟีนอล และ แอลกอฮอล์ อย่างรวดเร็ว  

C12H15N3O6สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 297.3
จุดหลอมเหลว : 95°C
ละลายในน้ำ (เกรดเทคนิค (technical grade)) ที่อุณหภูมิ 25°C: 0.9กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ >170°C c.c. (เกรดเทคนิค (technical grade))
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: >200°C (เกรดอุตสาหกรรม)
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): -0.8 (เกรดเทคนิค (technical grade)) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอนุภาคของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง รุนแรง ต่อ ตา สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง, ไต, ตับ, ปอด และ ระบบทางเดินอาหาร กรณีนี้อาจมีผลทำให้เนื้อเยื่อเป็นแผล 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารนี้ระเหยได้เล็กน้อย ความเข้มข้นของอนุภาคจะถึงระดับความเข้มข้นที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดให้มีการกระจายตัวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผงฝุ่น 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) อาจก่อให้เกิดความผิดปกติทางการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในมนุษย์ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 0.05 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA).
MAK: ภูมิไวเกินของทางเดินหายใจและผิวหนัง (SAH) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
เกรดอุตสาหกรรมของสารนี้จะเป็นสารผสมของไอโซเมอร์ของทั้งแอลฟากับบีตา 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : T; R: 46-23/25-41-43-48/22-52/53; S: 53-45-61; โปรดดูข้อสังเกต: E 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล