« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
ไดซัลฟิแรมICSC: 1438 (กันยายน 2002)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 97-77-8
EC Number: 202-607-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด การเผาไหม้  อนุภาคเล็กมากหรือละเอียดที่ถูกปล่อยออกมาจะมาผสมกับอากาศและทำให้ระเบิดได้  ห้ามใกล้เปลวไฟ  ทำให้เป็นระบบปิด ให้ใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันระเบิด ป้องกันการทับถมของฝุ่นละออง ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น)  ใช้ water spray, powder, foam, carbon dioxide.   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น ควบคุมสุขอนามัยอย่างเข้มงวด ผู้มีครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ   ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ   
ทางผิวหนัง   ถุงมือป้องกัน  ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง 
ทางตา   สวมใส่ แว่นตานิรภัย  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก สับสน ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ให้ดื่มน้ำที่ผสมด้วยผงถ่านกัมมันต์ (activated charcoal) ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอนุภาค (filter) สำหรับป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
 

การเก็บ
แยกจาก strong oxidants 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
ไดซัลฟิแรม ICSC: 1438
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะเป็นผง สีขาวถึงสีเทา ที่มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
ฝุ่นละอองอาจระเบิดได้ถ้าอยู่ในรูปของผงหรือเป็นเม็ดเล็กๆในอากาศ ถ้าแห้ง จะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้โดยวิธีการต่างๆ ได้แก่ การหมุน การอัดลมระหว่างขนส่ง การเท ฯลฯ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะย่อยสลาย หากได้รับความร้อนหรือเผาไหม้สารนี้ สารนี้จะสร้างไอควัน (ฟูม) ที่มีพิษและกัดกร่อน รวมทั้งสร้าง สารไนโตรเจนออกไซด์ ถึงสารซัลเฟอร์ออกไซด์ สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง ทำลาย ทองแดง 

C10H20N2S4 / ((C2H5)2NCS)2S2สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 269.6
จุดเดือดที่ 2.3กิโลปาสกาล (kPa): 117°C
จุดหลอมเหลว : 71°C
ความหนาแน่น: 1.3 g/cm³
ละลายในน้ำ : 0.02กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.9  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาละอองของสารเข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารนี้ระเหยได้เล็กน้อย ความเข้มข้นของอนุภาคจะถึงระดับความเข้มข้นที่เป็นอันตรายอย่างรวดเร็ว เมื่อเปิดให้มีการกระจายตัวออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นผงฝุ่น 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ระบบต่อมไร้ท่อ, ตับ, ระบบประสาท และ ไธรอยด์ สารนี้อาจมีผลต่อimpaired functions จากการทดสอบกับสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้อาจก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือการพัฒนาการของมนุษย์ได้ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 2 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A4 (not classifiable as a human carcinogen).
MAK: (inhalable fraction): 2 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): II(8); ภูมิไวเกินของผิวหนัง (SH); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): D 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ 

ข้อสังเกต
การผสมของสารนี้กับแอลกอฮอล์ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดและระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งมีผลทำให้ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ และหายใจเร็วกว่าปกติหรือหายใจหอบ
ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏให้เห็นช้า
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : Xn, N; R: 22-43-48/22-50/53; S: (2)-24-37-60-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล