« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
1,2,3,4-เตตระไฮโดรแนฟทาลีนICSC: 1527 (ตุลาคม 2004)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 119-64-2
EC Number: 204-340-2

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด การเผาไหม้ ปล่อยไอควันหรือแก๊สที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือเป็นพิษจากการเกิดเพลิงไหม้  มากกว่า 77 องศาเซลเซียส (°C) จะทำให้เกิดการระเบิดจากไอระเหยหรือจากการผสมของอากาศ  ห้ามสัมผัสกับสารออกซิไดซ์ ห้ามใกล้เปลวไฟ  เมื่ออุณหภูมิมากกว่า 77 องศาเซลเซียส (°C) ให้ใช้ระบบปิดและมีการระบายอากาศ ป้องกันการเกิดประจุไฟฟ้าสถิต (เช่น มีสายดิน เป็นต้น)  ใช้ water spray, powder, foam, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

   
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแอ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด  ถุงมือป้องกัน  ค่อย ๆ รินน้ำเปล่าล้างผิวหนัง หรือใช้ฝักบัวในการชะล้าง ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก 
ทางตา ความเจ็บปวด รอยแดง ตาพร่า  สวมใส่ แว่นตานิรภัย  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก ปวดท้อง โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  ไม่ทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมี ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดมิดชิดเท่าที่จะทำได้ ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

 

การขนส่ง
UN Classification
 

การเก็บ
แยกจาก strong oxidants เก็บรักษาในห้องที่มีการถ่ายเทอากาศดี มีการปิดผนึก 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
1,2,3,4-เตตระไฮโดรแนฟทาลีน ICSC: 1527
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลว ไม่มีสี มีกลิ่นเฉพาะ 

อันตรายทางกายภาพ
เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้สามารถกลายเป็นสารในรูปของสารเพอร์ออกไซด์ (peroxides) ซึ่งเป็นสารระเบิด สารสลายตัวเมื่อถูกทำให้ร้อน จะเกิดไอควัน (ฟูม) มีฤทธิ์ระคายเคือง สารนี้อย่างจริงจัง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์ 

C10H12สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 132.20
จุดเดือด : 207.6 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -35.8°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.9702
ละลายในน้ำ: ได้น้อยมาก
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: 0.05 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 4.6
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ 77°C ภาชนะเปิด (o.c.)
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 385°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 0.8 (ที่ 100°C) - 5.0 (ที่ 150°C)vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 3.78  


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง หากกลืนกินของเหลวของสารนี้ แล้วสำลักเข้าสู่ปอดอาจมีผลทำให้ปอดอักเสบจากสารเคมี 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ความเข้มข้นของสารปนเปื้อนในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายอย่างช้า ๆ หากระบายสารนี้ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส; การฉีดพ่นเป็นละอองฝอย (Spraying) หรือการกระจายตัวออกไปจะเร็วกว่ามาก 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไต 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
MAK: 11 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), 2 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm); ประเภทของขีดจำกัดสูงสุด (peak limitation category): I(1); กลุ่มเสี่ยงตั้งครรภ์ (pregnancy risk group): C 

สิ่งแวดล้อม
สารนี้เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ปลาสารเคมีนี้สะสมได้ใน ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : Xi, N; R: 19-36/38-51/53; S: (2)-26-28-61 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล