« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
เอทิลเตอร์เชียรี่บิวทิลอีเทอร์ICSC: 1706 (พฤศจิกายน 2009)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 637-92-3
UN #: 1179
EC Number: 211-309-7

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย  ใช้ powder, alcohol-resistant foam, water in large amounts, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ ไอ เซื่องซึม หมดสติ  ใช้ การระบายอากาศ การระบายอากาศเฉพาะที่ อุปกรณ์คุ้มครองทางเดินหายใจ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน หากรู้สึกไม่สบายให้รีบพบแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง ผิวแห้ง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง 
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด  สวมใส่ แว่นตานิรภัย อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ค่อย ๆ รินน้ำสะอาดล้างตา (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออกก่อน ถ้าสามารถเอาคอนแทคเลนส์ออกได้)  
ทางปาก คอแห้ง อันตรายจากการสำลัก โปรดอ่านข้อมูลกรณีการหายใจเพิ่มเติม  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ส่งต่อไปพบแพทย์ทันที 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บชองเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะบรรจุที่ปิดผนึก ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flameexcl mark;warncancer;health haz
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองตา
ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังไม่ปานกลาง
อาจก่อให้เกิดอาการง่วงซึม หรือเวียนศีรษะ
อาจทำให้เสียชีวิตได้หากกลืนกินสารนี้หรือหายใจรับสารนี้เข้าสู่ร่างกาย 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
มีความคงทนต่อไฟ แยกจาก oxidants อยู่ในที่เย็น มีการปิดผนึก เก็บรักษาในที่มืด เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
เอทิลเตอร์เชียรี่บิวทิลอีเทอร์ ICSC: 1706
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี มีกลิ่น เฉพาะ  

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ เนื่องจากผลของการไหล การเขย่า และอื่นๆ จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้จะสลายตัว เมื่อถูกทำให้ร้อนและสัมผัสกับกับ พื้นผิวร้อน และเปลวไฟ จะเกิดไอควัน (ฟูม) มีฤทธิ์ระคายเคือง สารนี้สามารถอยู่ใรูปของเพอร์ออกไซด์ซึ่งเป็นสารที่ระเบิดได้ เมื่อสัมผัสอากาศหรือแสงสว่าง 

C6H14Oสูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 102.2
จุดเดือด : 70-73 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -94°C
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ (น้ำ = 1): 0.75
ละลายในน้ำ (ได้น้อย) ที่อุณหภูมิ 25°C: 1.2กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 20°C: 12.8 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 3.5
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.3
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -19°C c.c.
อุณหภุูมิที่ติดไฟได้เอง: 375°C
ขีดจำกัดการระเบิด : 1.2-7.7vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.28
ความหนืด : <7 อัตราส่วนของความหนาแน่นของความหนืด ตารางมิลลิเมตรต่อวินาที (mm²/s) ที่อุณหภูมิ 40°C 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาไอระเหยของสารนี้เข้าสู่ร่างกาย และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา, ผิวหนัง และ ทางเดินหายใจ หากกลืนกินสารนี้ แล้วสำลัก สารนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายทางทางเดินหายใจและมีผลทำให้เป็นโรคปอดอักเสบ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง การได้รับสัมผัสสารนี้ สามารถทำให้การรู้สึกตัวลดน้อยลง. 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สารอันตรายนี้จะระเหยปนเปื้อนในอากาศอย่างรวดเร็วมาก เมื่อทำให้เกิดการกระจายตัว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
หากผิวหนังได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ผิวหนังอักเสบ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: 25 ส่วนในล้านส่วน (ppm) กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); A4 (not classifiable as a human carcinogen) 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
ตรวจสอบสารเปอร์ออกไซด์ก่อนการกลั่น; ถ้าพบสารเปอร์ออกไซด์ให้กำจัด 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
เอทิลเทอร์เทียรีบิวทิลอีเทอร์  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล