« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
1,3-เพนทาไดอีนICSC: 1722 (พฤศจิกายน 2008)
1,3-เพนทาไดอีน
เพนทา-1,3-ไดอีน
1-เมทิลบิวทาไดอีน
ไพเพอริลีน
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 504-60-9
UN #: 3295
EC Number: 207-995-2

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไวไฟสูง  ไอระเหย/ส่วนผสมของอากาศทำให้ระเบิด ความร้อนมีผลทำให้ความดันสูงซึ่งเสี่ยงต่อการระเบิด  ห้ามใกล้เปลวไฟ ห้ามใกล้ประกายไฟ และห้ามสูบบุหรี่  ระบบปิด ระบายอากาศ อุปกรณ์ไฟฟ้าป้องกันระเบิดและไฟฉายป้องกันการระเบิด ห้ามใช้อากาศอัดในการบรรจุสาร การถ่ายเท หรือ การขนย้าย ใช้เครื่องมือชนิดที่ไม่เกิดประกายไฟ  ใช้ water spray, foam, powder, carbon dioxide.  ในกรณีของเพลิงไหม้ ให้รักษาอุณหภูมิของถังบรรจุสารเคมีให้เย็นด้วยการฉีดน้ำเป็นละอองฝอย (spraying) ให้ถังบรรจุสารเคมีนั้น 

 ป้องกันการปล่อยละอองสารเคมี  
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ   ใช้ การระบายอากาศ  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน หากรู้สึกไม่สบายให้รีบพบแพทย์ทันที 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง  ถุงมือป้องกัน  ให้ถอดเสื้อผ้าหรือชุดที่ปนเปื้อนออก ค่อย ๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำและสบู่ ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา ถ้ามีการระคายเคืองผิวหนัง 
ทางตา รอยแดง  สวมใส่ แว่นตานิรภัย  ค่อย ๆ รินน้ำสะอาดล้างตา (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออกก่อน ถ้าสามารถเอาคอนแทคเลนส์ออกได้)  
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน อันตรายจากการสำลัก  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ไปพบแพทย์หากรู้สึกไม่สบาย 

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
เขจัดแหล่งกำเนิดประกายไฟทั้งหมด อพยพออกจากพื้นที่อันตราย! ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ใช้เครื่องช่วยการหายใจ (repirator) ที่ใช้ตัวกรองอากาศ (filter) สำหรับแก๊สอินทรีย์และไอระเหยในการป้องกันความเข้มข้นของสารในอากาศที่เข้าสู่ทางเดินหายใจ การระบายอากาศ (Ventilation) ให้เก็บของเหลวที่หกรั่วไหลในภาชนะที่มีการปิดมิดชิด ดูดซับของเหลวที่ยังเหลือคงค้างอยู่ด้วยทรายหรือสารดูดซับเฉื่อย ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) ห้ามล้างสารเคมีลงสู่ท่อระบายน้ำ 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam;flamecancer;health haz
ของเหลวไวไฟสูงและไอระเหย
อาจเกิดอันตรายหากกลืนกินหรือหายใจรับสารนี้เข้าไป
สาเหตุ ระคายเคืองผิวหนังไม่รุนแรง
สาเหตุ ระคายเคืองตา
อาจเป็นอันตรายหากกลืนกินสารนี้หรือได้รับสารนี้ทางการหายใจ 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 3; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): II 

การเก็บ
แยกจาก strong oxidants มีความคงทนต่อไฟ เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ มีการระบายอากาศตลอดทางเดิน 
การบรรจุ/การหีบห่อ
 
1,3-เพนทาไดอีน ICSC: 1722
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นของเหลวไม่มีสี  

อันตรายทางกายภาพ
ไอระเหยหนักกว่าอากาศและอาจเคลื่อนตัวเหนือพื้น ซึ่งอาจเกิดการลุกไหม้ระหว่างทางได้ 

อันตรายทางเคมี
สารนี้อย่างรุนแรง จะมีปฏิกิริยากับ สารออกซิแดนท์อย่างแรง สามารถทำให้เกิดสารเพอร์ออกไซด์ซึ่่งอาจทำให้เกิดการเริ่มต้นของปฏิกิริยาพอลีเมอร์ไรเซชันได้ 

CH2(CH)3CH3สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 68.1
จุดเดือด : 42 องศาเซลเซียส
จุดหลอมเหลว : -87°C
ความหนาแน่น: 0.7 g/cm³
ละลายในน้ำ (ได้น้อยมาก) : 0.069กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml)
ความดันไอ ที่อุณหภูมิ 25°C: 53.3 กิโลปาสกาล (kPa)
ความหนาแน่นของไอน้ำสัมพัทธ์ (อากาศ = 1): 2.35
ความหนาแน่นสัมพัทธ์ของส่วนผสมระหว่าง ไอระเหย/อากาศ (vapour/air-mixture) ที่อุณหภูมิ 20°C (อากาศ = 1): 1.7
จุดวาบไฟ : อุณหภูมิ -28°C c.c.
ขีดจำกัดการระเบิด : 2.0 - 8.3vol% ในอากาศ
ค่าสัมประสิทธิ์การกระจายตัวของสารในชั้นน้ำและชั้นออกทานอล (log Pow): 1.5 (โดยประมาณ) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจ 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
ไอระเหย ทำให้ระคายเคือง ต่อ ตา และ ผิวหนัง หากกลืนสารนี้อาจทำให้อาเจียนและทำให้เกิดปอดอักเสบจากการสำลัก ผลกระทบต่อสุขภาพอาจปรากฏช้า 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
ความเข้มข้นของสารปนเปื้อนในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายอย่างช้า ๆ หากระบายสารนี้ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
 

สิ่งแวดล้อม
 

ข้อสังเกต
สารผสมทางการค้าของ 1,3-เพนทาไดอีน (1,3-pentadiene) จะประกอบด้วย 80% ของทรานส์-ไอโซเมอร์ (trans-isomer) มีรหัสหรือหมายเลขประจำตัวสารเคมี CAS number 2004-70-8 และ 20% ของซิส-ไอโซเมอร์ (cis-isomer) มีรหัสหรือหมายเลขประจำตัวสารเคมี CAS number 1574-41-0) และ CAS number 504-60-9
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล