« กลับไปสู่รายการผลของการสืบค้น  
แคลเซียมโครเมตICSC: 1771 (เมษายน 2013)
แคลเซียมโครเมต
แคลเซียมโมโนโครเมต
โครมิกแอร์ซิด, เกลือแคลเซียม (1:1) หรือ กรดโครมิก, เกลือแคลเซียม (1:1)
เลขประจำตัวสารเคมี (CAS #): 13765-19-0
UN #: 3288
EC Number: 237-366-8

  อันตรายเฉียบพลัน การป้องกัน การระงับอัคคีภัย
เพลิงไหม้และรายละเอียด; การระเบิด ไม่ได้เป็นสารที่สันดาปได้แต่เป็นสารที่เพิ่มการสันดาปของสารอื่น    ห้ามสัมผัสกับสารติดไฟ    ในกรณีที่มีเพลิงไหม้โดยรอบ ให้ใช้สารดับเพลิงที่เหมาะสม   

 ป้องกันการแพร่กระจายของฝุ่น หลีกเลี่ยงทุกการสัมผัสสารเคมีนี้! ทุกรายที่ได้รับสัมผัสสารนี้ควรปรึกษาแพทย์ 
  อาการแสดง การป้องกัน การปฐมพยาบาล
ทางการหายใจ รู้สึกปวดแสบปวดร้อน เจ็บคอ ไอ หายใจมีเสียงหวีด หายใจลำบาก  ใช้ ระบบปิด การระบายอากาศเฉพาะที่  อากาศบริสุทธิ์ พักผ่อน ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ควรผายปอด ส่งต่อแพทย์ 
ทางผิวหนัง ผื่นแดง เจ็บปวด ผิวหนังไหม้  ถุงมือป้องกัน เสื้อผ้าป้องกัน  ขั้นตอนแรกให้ค่อยๆ ชำระล้างด้วยน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นให้ถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกแล้วค่อยๆ ชำระล้างผิวหนังด้วยน้ำอีกครั้ง ส่งต่อ ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษา  
ทางตา รอยแดง ความเจ็บปวด ตาพร่า แผลไฟไหม้  สวมใส่ กระบังหน้า อุกรณ์ป้องกันดวงตา ในการป้องกันการหายใจแบบผสมผสาน  ขั้นแรกให้ค่อย ๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 นาที (ให้เอาคอนแทคเลนส์ออก ถ้าสามารถเอาออกได้) จากนั้นให้นำส่งแพทย์ 
ทางปาก คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง มึนงง ท้องร่วง ช็อกหรือแฟบ  ห้ามรับประทานอาหาร น้ำดื่ม หรือสูบบุหรี่ระหว่างปฏิบัติงาน ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร  บ้วนปาก ไม่ทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหนึ่งหรือสองแก้ว ส่งต่อไปพบแพทย์  

การกำจัดทิ้ง การจำแนกประเภทและรายละเอียด: ตราสัญลักษณ์
การคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล : ชุดป้องกันสารเคมีซึ่งมีเครื่องช่วยหายใจแบบมีถังอากาศในตัว (self-contained breathing apparatus: SCBA) ให้กวาดสารที่หกรั่วไหลลงในภาชนะบรรจุที่ปิด ถ้าจะใช้วิธีที่เหมาะสม ให้ทำให้เปียกหรือชื้นก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อป้องกันการเกิดฝุ่น ให้ตระหนักถึงการเก็บสารในภาชนะบรรจุอย่างระมัดระวัง ดังนั้น วิธีการจัดเก็บและวิธีการกำจัดทิ้งให้ขึ้นอยู่กับกฎที่ใช้ควบคุมในพื้นที่นั้น (local regulation) ห้ามปล่อยสารเคมีนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ขึ้นอยู่กับเกณฑ์กำหนด GHS ของ UN (UN GHS Criteria)

flam circleskull;toxiccorrcancer;health hazenviro;aqua
อันตราย
อาจทำให้เกิดดพลิงไหม้; เป็นตัวออกซิไดซ์ (oxidizer)
เป็นพิษถ้ากลืนกิน
เป็นอันตรายต่อสุขภาพเมื่อผิวหนังสัมผัสสารนี้
อาจเสียชีวิตได้หากหายใจสารนี้เข้าสู่ร่างกาย
ก่อให้เกิดผิวหนังไหม้รุนแรงและทำลายตา
อาจ่กอให้เกิดการแพ้ หรือมีอาการหอบหืด หรือหายใจลำบาก
อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง
อาจก่อให้เกิดพันธุกรรมบกพร่อง
อาจทำให้เกิดโรคมะเร็ง
อาจทำลายการสืบพันธุ์หรือเด็กไม่เกิด
เป็นสาเหตุทำลาย ไต
เป็นสาเหตุทำลาย จมูก ตลอดการได้รับสัมผัสหรือการได้รับสัมผัสซ้ำ
เป็นพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำโดยมีผลกระทบเป็นระยะเวลานาน 

การขนส่ง
UN Classification
UN Hazard Class: 6.1; หมายเลขของสหประชาชาติระบุกลุ่มของการหีบห่อสาร (UN Pack Group): III 

การเก็บ
จัดการการบำบัดน้ำเสียจากการดับเพลิง เก็บในที่แห้ง มีการปิดผนึก แยกจาก combustible substances, reducing agents และ food and feedstuffs เก็บรักษาในพื้นที่ที่ไม่มีการระบายหรือมีท่อระบายน้ำ 
การบรรจุ/การหีบห่อ
ไม่ขนส่งร่วมกับอาหารและภาชนะสำหรับบรรจุอาหาร หรือภาชนะบรรจุสำหรับให้อาหาร 
แคลเซียมโครเมต ICSC: 1771
กายภาพและรายละเอียด; ข้อมูลสารเคมี

สถานะทางกายภาพของสาร
มีลักษณะทางกายภาพเป็นผลึกYELLOW หรือเป็นผง  

อันตรายทางกายภาพ
 

อันตรายทางเคมี
สารละลายในน้ำ เป็น ด่างอ่อน สารนี้เป็นสารออกซิแดนท์ที่แรง สารนี้มีปฏิกิริยากับเป็นวัสดุติดไฟและเป็นสารรีดิวซ์ 

CaCrO4สูตรโมเลกุล
มวลโมเลกุล: 156.1
ย่อยสลายหรือแตกตัว ที่ 1020°C
ความหนาแน่น: 3.12 g/m³
ละลายในน้ำ (ได้ดี) : 22.3กรัมต่อ 100 มิลลิตร (g/100ml) 


การได้รับสัมผัสและรายละเอียด; ผลกระทบต่อสุขภาพ

ทางผ่านการได้รับสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย
สารนี้สามารถถุกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาละอองของสารเข้าสู่ร่างกาย, ผ่านทางผิวหนัง และ โดยการรับประทาน 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสในระยะเวลาสั้น
สารนี้ จะกัดกร่อน ตา หากรับประทานจะเกิดการกัดกร่อนทางเดินอาหาร สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อไต และ ตับ กรณีนี้อาจมีผลทำให้เนื้อเยื่อเป็นแผล 

ความเสี่ยงต่อการหายใจ
เมื่อสารนี้กระจายตัวออกไป ความเข้มข้นของอนุภาคของสารนี้ในอากาศจะถึงระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างรวดเร็ว 

ผลกระทบต่อสุขภาพจากการได้รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานหรือได้รับสัมผัสซ้ำ
การได้รับสัมผัสสารนี้ซ้ำหรือได้รับเป็นระยะเวลานานอาจก่อให้เกิดการแพ้ที่ผิวหนัง (skin sensitization) หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดหอบหืด หากหายใจรับสารนี้ อาจก่อให้เกิดแผลในจมูก สารนี้อาจมีผลต่อperforation of the nasal septum สารนี้อาจมีผลกระทบต่อ ไต สารนี้อาจมีผลต่อkidney impairment สารนี้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ จากการทดสอบกับสัตว์ทดลองแสดงให้เห็นว่าสารนี้อาจก่อให้เกิดพิษต่อระบบสืบพันธุ์หรือการพัฒนาการของมนุษย์ได้ 


ขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในการประกอบอาชีพ (การทำงาน)
TLV: (as Cr(VI), inhalable fraction): 0.0002 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3), กรณีค่าเฉลี่ยตลอดเวลาการทำงาน (TWA); 0.0005 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) กรณีขีดจำกัดระยะสั้น (STEL); A1 (confirmed human carcinogen); (ผิวหนัง); (ลดภูมิไวเกิน); (เพิ่มภูมิไวเกิน).
EU-OEL: (as Cr): 0.005 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) กรณีเฉลี่ยตลอดการทำงาน (TWA); (โปรดอ่านข้อสังเกต).
MAK: (กรณีโครเมียม, inhalable fraction): ดูดซึมผ่านผิวหนัง (skin absorption) (H); ภูมิไวเกินของผิวหนัง (SH); การจำแนกกลุ่มมะเร็ง (carcinogen categor): 1; กลุ่มที่ทำให้เซลล์สืบพันธุ์เกิดการกลายพันธุ์:

สิ่งแวดล้อม
สารนี้มีพิษมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อม ต้องไม่แพร่สารนี้ออกสู่สิ่งแวดล้อม 

ข้อสังเกต
ไม่นำเสื้อผ้าที่ใช้ทำงานกลับไปบ้าน
ผู้ที่มีอาการหอบหืดจากสารนี้ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารนี้
มักไม่มีอาการหอบหืดปรากฏชัดเจนจนกว่าระยะเวลา 2 - 3 ชั่วโมงผ่านไป และอาการหอบหืดจะกำเริบขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือออกแรง จึงจำเป็นต้องมีการพักและมีการสังเกตทางการแพทย์
มีกำหนดการใช้ค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในสภาพแวดล้อมในการทำงานของสหภาพยุโรป (EU-OEL limit value) 0.010 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3)ได้จนถึงวันที่ 17 มกราคม 2568 (2025) และมีการกำหนดค่าขีดจำกัดการได้รับสัมผัสในสภาพแวดล้อมในการทำงานของสหภาพยุโรป 0.025 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (mg/m3) สำหรับงานเชื่อม (welding) หรืองานตัดพลาสมา (plasma cutting) หรืองานที่มีกระบวนการทำงานคล้ายคลึงกัน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้มีไอควัน (ฟูม) เกิดขึ้น โดยใช้ค่านี้ได้จนถึงวันที่ 17 มกราคม 2568 (2025) 

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม
  EC Classification
สัญลักษณ์ : T, N; R: 45-22-50/53; S: 53-45-60-61; โปรดดูข้อสังเกต: E 

(th)ทั้งนี้ องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) หรือสหภาพยุโรป (European Union) จะไม่รับผิดชอบต่อคุณภาพและความแม่นยำของการแปล หรือการใช้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูล